พระปกเกล้า เผยผลประเมินเลือกตั้งท้องถิ่น ชี้เงินซื้อเสียง ยังมีอิทธิพลจูงใจคนได้

พระปกเกล้า เผย ผลประเมินเลือกตั้งท้องถิ่น คนสนใจเทศบาลมากสุด ขณะที่ กทม.น้อยสุด ชี้ ซื้อเสียงมีอิทธิพลจูงใจ ปชช. แนะ กกต.แก้ กม.ให้เลือกล่วงหน้า-นอกราชฯ ได้ มุ่งอำนวยความสะดวกผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ

 

วันที่ 28 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า เผยแพร่ผลการประเมินการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด ผู้เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้ง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น

โดยผลการประเมินตามมาตรวัดตั้งแต่ 0-10 คะแนน โดยที่ 0 คะแนน หมายถึงไม่สนใจเลย และ 10 คะแนนหมายถึงมีความสนใจมาก พบว่า ค่าเฉลี่ยความสนใจของประชาชนต่อการเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นอยู่ที่ในระดับเกินกว่า 7 คะแนน โดยการเลือกตั้งเทศบาลได้มีค่าเฉลี่ยความสนใจของประชาชนอยู่ที่ 7.96 คะแนน อบต. 7.78 คะแนน อบจ. 7.36 คะแนน พัทยา 7.29 คะแนน และกรุงเทพมหานคร 6.83 คะแนน โดยประชาชนเกือบทั้งหมดทราบถึงวันจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นแต่ละประเภท ส่วนที่รู้ว่าหากมีการแจ้งเบาะแสการทุจริตอาจได้รับเงินรางวัลในการแจ้งเบาะแส มีเพียง ร้อยละ 37.6

ขณะที่ประชากร ตัวอย่างร้อยละ 70 ยืนยันว่า จะไม่เลือกผู้สมัครที่ซื้อเสียง ส่วนร้อยละ 30 ไม่แน่ใจ สะท้อนว่าการซื้อเสียงยังมีอิทธิพลจูงใจต่อประชากรกลุ่มตัวอย่างได้บางส่วน ส่วนการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนว่าการลงคะแนนเสียงจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ดีขึ้นพบว่าในส่วนของ อบจ.และ อบต.ผู้ตอบค่อนข้างเห็นด้วยแต่ในส่วนของเทศบาลมากกว่าร้อยละ 50 ไม่ค่อยเห็นด้วย

ส่วนความพึงพอใจในการจัดการเลือกตั้ง พบว่า มีระดับความพึงพอใจที่ค่าเฉลี่ยสูงกว่า 7 คะแนน อยู่ในช่วง 8-10 คะแนน สำหรับด้านความคาดหวังต่อผลการเลือกตั้งประชากรกลุ่มตัวอย่างในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบมองว่าจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมบ้างเล็กน้อยคิดเป็นร้อยละ 40 โดยประมาณ ขณะที่ 160 มองว่าแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม สะท้อนว่าประชากรกลุ่มตัวอย่างอาจไม่ได้คาดหวังกับความเปลี่ยนแปลงมากนัก

สำหรับการประเมินผลการจัดการเลือกตั้งยังมีโปสเตอร์ หรืออุปกรณ์การหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งอยู่ใกล้หน่วยเลือกตั้งในบางพื้นที่เนื่องจากผู้สมัครเก็บไม่ทัน มีการให้คนอื่นเข้ามาภายในหน่วยเลือกตั้งและพูดคุยกับกรรมการประจำหน่วย การเปิดหน่วยเลือกตั้งในเวลา 08.00 น. ยังมีความคลาดเคลื่อนกันในบางพื้นที่ การจัดคูหาเลือกตั้งเพื่อรองรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ในหลายสถานที่เลือกตั้งยังมีข้อบกพร่อง กระบวนการตรวจสอบและยืนยันตนของผู้ใช้สิทธิ พบว่ากรรมการประจำหน่วยยังไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน และยังไม่ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค เช่น ไม่พบการเว้นระยะห่างจริงในหลายพื้นที่

ส่วนการร้องเรียนเรื่องการนับคะแนนเรื่องการนับคะแนนของบางหน่วยที่จำนวนผู้มาลงคะแนนไม่ตรงกับจำนวนบัตรที่นับการขานคะแนนผิดไม่ตรงกับบัตร การขีดคะแนนในช่องที่ไม่ถูกต้องยังมีอยู่ นอกจากนี้ ยังพบการดำเนินงานไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบ โดยเฉพาะการไม่เจาะทำลายบัตรเลือกตั้งที่ไม่ได้ใช้ การไม่ได้รับบัตรเลือกตั้งที่ไม่ได้ใช้ และการที่หีบไม่ได้มีการล็อกด้วยแถบซีล

ขณะที่ การกำหนดเวลาปิดลงคะแนนเสียงเวลา 17.00 น. ยังมีความเห็นแตกต่างกัน บางส่วนเห็นว่ากำหนดเวลาดังกล่าวนานเกินไปทำให้เกิดความลำบากต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดและชนบท ขณะที่ฝ่ายที่มองว่าเหมาะสมอยู่แล้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเดินทางมาลงคะแนนได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและพื้นที่เขตเมืองที่มีปัญหาด้านการจราจร

ส่วนการทำงานของผู้ตรวจการเลือกตั้ง พบว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง อ่านนี้ผลทำให้วิธีคิดและการทำงานเป็นแบบตั้งรับ และมีข้อสังเกตว่าด้วยอายุที่มากและสุขภาพของผู้ตรวจอาจส่งผลต่อการปฏิบัติงานได้ การเลือกและหมุนเวียนผู้ที่จะมาเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ซึ่งมุ่งเน้นการผูกขาดการทำงานในพื้นที่ อาจทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง ไม่เข้าใจสภาพพื้นที่ ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอให้การจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม

ทั้งนี้ รายงานการประเมินผลดังกล่าวยังได้มีข้อเสนอแนะว่า กกต.ควรปรับปรุงแนวทางในการปฏิบัติงานของกรรมการประจำหน่วยให้ถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็นลง เน้นการทำงานที่มุ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาใช้สิทธิ และประชาชนที่สนใจเข้าสังเกตการณ์ เพิ่มการอำนวยความสะดวกกับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และประชาชนที่ต้องออกไปทำงานหรือศึกษานอกพื้นที่ ปรับปรุงข้อกฎหมายในการจัดการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และนอกราชอาณาจักรในกรณีเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะกฎหมายปัจจุบันไม่บัญญัติให้การเลือกตั้งท้องถิ่นมีการเลือกตั้งล่วงหน้าและนอกราชอาณาจักร พิจารณานำการลงคะแนนเสียงที่นอกเหนือจากการลงคะแนน ณ สถานที่เลือกตั้ง เช่น การลงคะแนนโดยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์การลงคะแนนออนไลน์ หรือการนำเทคโนโลยี blockchain มาใช้ ทบทวนปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยควรเป็นคณะกรรมการที่มีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการติดตามการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องเต็มเวลา คล้าย กกต. ประจำจังหวัดในอดีต