“รมว.วราวุธ” อ้อน ชาวสุพรรณฯ ทำงานมา 4 ปี ขอเวลาไม่นาน “ศิลปอาชา ภาค 2” ไม่แพ้ภาค 1 ยุคบรรหารแน่ รับประกัน ให้คำมั่น

 

วันที่ 23 ก.ย. 65  ที่ จ.สุพรรณบุรี นาย​วราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเปิดงานสัมมนา เรื่อง บทบาทผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น การส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาสู่เกษตรกรอัจฉริยะ ​ด้านการผลิตและการตลาด พร้อมทักทายตัวแทนเกษตรกร จาก อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ​แก้ไขปัญหา​ราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร​ ซึ่งมี นายณัฐวุฒิ​ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานคณะกรรมาธิการ และมีนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมเสวนา

นายวราวุธ กล่าวว่า ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมา จ.สุพรรณบุรี เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วม แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยความสามัคคี การร่วมมือร่วมใจ แก้ปัญหาของทุกคน

อย่างเช่นปีที่แล้วก็ได้ความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่น ที่ช่วยเหลือกันนำถุงยังชีพ เรือ สุขาลอยน้ำ ไปมอบให้ชาวบ้านอยู่หลายครั้ง แต่มาปีนี้ก็มีเรื่องที่น่าเจ็บใจ เพราะบางคนกล่าวหาว่า จ.สุพรรณบุรีน้ำไม่ท่วม เพราะผันน้ำผ่านประตูน้ำพลเทพ แค่ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้อยกว่าประตูน้ำอื่นๆ และยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นน้ำการเมือง ซึ่งอาจเป็นการวิจารณ์ด้วยความไม่รู้

“วันนี้ต้องขอขอบคุณกรมชลประทาน ที่เมื่อประสานงานก็ได้รับการช่วยเหลือเครื่องผลักดันน้ำ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า และพื้นที่ใกล้เคียง บรรเทาลง นี่เป็นการทำงานของเรากับกรมชลประทาน นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ช่วยประสานงาน ทั้งหมดนี้คือการทำงานของพวกเราในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้ประสาน และทำงานด้วยกันมา”

นายวราวุธ กล่าวว่า มีหลายคนตั้งคำถามว่า 23 เมษายน 2559 เมื่อไม่มี นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว สุพรรณบุรีจะเป็นอย่างไร วันนี้ผ่านมา 6 ปีครึ่ง เราได้ทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าทุกคนในจังหวัดร่วมมือกัน ต้นกล้าเล็กๆ ที่นายบรรหาร ปลูกเอาไว้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ขณะนี้กำลังเติบโต ขยายกิ่งก้านสาขา ปกคลุมไปทั่วจังหวัดสุพรรณบุรี

“ผมวราวุธคนนี้ ลูกพ่อบรรหาร ต้องกราบขออภัยที่ฝีไม้ลายมือ เกือบ 4 ปี ในฐานะรัฐมนตรี ยังอาจจะสู้นายบรรหารไม่ได้ เพราะนายบรรหาร ทำงานมามากมาย เป็นทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรี จังหวัดสุพรรณบุรี อีก 100 ปี ก็หาคนอย่างนายบรรหารไม่ได้

ผมทำงานแทบตายเป็นรัฐมนตรีแค่กระทรวงเดียว คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ทำงานมา 4 ปี ขอเวลาอีกนิด รับประกันได้ ศิลปอาชา ภาค 2 ต่อจากนายบรรหาร ไม่แพ้ภาค 1 แน่นอน รับประกัน และเป็นสิ่งที่ผมให้คำมั่น”

นายวราวุธ กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 26 ก.ย.นี้ ตนจะไปเปิดแหล่งน้ำ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปฟื้นฟูแหล่งน้ำที่ อ.อู่ทอง ให้เป็นน้ำตกขึ้นมาอีกครั้ง และยังจะนำมาช่วยเหลือเกษตรจ.สุพรรณบุรี เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายทำงานเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าอยู่ในสถานะใด ตำแหน่งใด แต่การดูแลช่วยเหลือประชาชนคือหัวใจของเรา

นายวราวุธ ส่วนราคาผลิตผลทางการเกษตร ได้ขอบคุณคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหา​ราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่ตั้งใจทำงานและเดือดร้อนแทนเกษตรกร เพราะเมื่อพูดถึงราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ไม่ใช่แค่เรื่องราคาข้าว หรือ อ้อย แต่มีพืชผลทางการเกษตรอีกหลายอย่าง ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ต่อสู่เพื่อเกษตรกรมาตลอด จึงเป็นที่มาของงานสัมมนาครั้งนี้