ความสำเร็จของยูเครน กลายเป็นความเสี่ยงต่อระบอบการปกครองปูติน หลังพ่ายในสนามรบ

ยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางกิโลเมตรจากรัสเซีย ทำให้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” ดูเปราะบางยิ่งขึ้น รมช.กลาโหมปลุกใจกอบกู้ทุกพื้นที่ยึดครองทั้งหมด

 

วันที่ 13 กันยายน 2565 ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ระบอบการปกครองของ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ดูเหมือนจะเปราะบางมากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากยูเครนคว้าชัยชนะในสนามรบ ซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับสงครามในยูเครน แม้แต่ในผู้ที่สนับสนุนทางการรัสเซีย

มีรายงานต่าง ๆ มากมายที่ชี้ว่านักวิจารณ์ที่สนับสนุนปูติน ต่างตั้งคำถามถึงการตัดสินใจเดินหน้าความขัดแย้งในยูเครนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด

รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับการถอนกำลังออกจากเมืองคาร์คิฟ และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ของปูตินที่ทำหน้าที่ประสานกับสื่อมวลชนยังคงยืนยันว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียจะดำเนินต่อไป

ด้านบริษัทที่ปรึกษา “เตเนโอ” (Teneo) แสดงความเห็นในวันเดียวกันว่า “การสูญเสียทางทหารและความอัปยศอดสูของกองทหารรัสเซีย ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เนื่องจากในประเทศมีการวิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารจากหลายฝ่ายเพิ่มมากขึ้น”

“ด้วยเหตุนี้ ปูตินจึงเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น หลังเกิดความเสียเปรียบในแนวหน้า ซึ่งอาจมีทั้งการเคลื่อนไหวเพื่อยกระดับการทำสงคราม และการเรียกร้องให้เริ่มการเจรจาหยุดยิง”

ความสำเร็จปลุกใจเป้าหมายปลดปล่อยทุกพื้นที่ยึดครอง

ขณะที่ รอยเตอร์สรายงานว่า จากความสำเร็จของกองทัพยูเครนในการโต้กลับสายฟ้าแลบจนสามารถกู้คือพื้นที่ยึดครองแล้วกว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร ทำให้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวในการปราศรัยช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ว่า จนถึงขณะนี้ มีพื้นที่ประมาณ 8,000 ตารางกิโลเมตร (3,100 ตารางไมล์) ได้รับการปลดปล่อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของคาร์คิฟ

“มาตรการรักษาเสถียรภาพ” เสร็จสิ้นแล้วในราวครึ่งหนึ่งของอาณาเขตนั้น และทั่วทั้งพื้นที่ที่ได้รับอิสรภาพซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกัน มาตรการรักษาเสถียรภาพยังคงดำเนินต่อไป” เซเลนสกี้ กล่าว

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบขอบเขตทั้งหมดของความสำเร็จในสนามรบที่ยูเครนอ้างสิทธิ์ได้ในทันที พื้นที่ทั้งหมดที่เซเลนสกี้อ้างถึงนั้นมีขนาดประมาณเกาะครีตของกรีซ

นับตั้งแต่มอสโกละทิ้งที่มั่นหลักทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันแรกของสงคราม กองทหารยูเครนสามารถยึดเมืองต่างๆ ได้หลายสิบแห่งด้วยการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งในสนามรบ

ฮันนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน กล่าวในจัตุรัสกลางเมืองบาลาคลียา ซึ่งเป็นชุมทางสำคัญในการส่งกำลังบำรุงทหารซึ่งยึดครองโดยกองกำลังยูเครนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า เป้าหมายคือการปลดปล่อยภูมิภาคคาร์คิฟและอื่น ๆ – ดินแดนทั้งหมดรัสเซียยึดครอง

นอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลเยอรมนี กล่าวว่า โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรี ได้ต่อสายคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ท่ามกลางกองทัพรัสเซียอยู่ภายใต้แรงกดดัน เรียกร้องให้ปูตินหาทางแก้ไขทางการทูตโดยเร็วที่สุด โดยอิงจากการหยุดยิง การถอนทหารรัสเซียออกโดยสมบูรณ์ และเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของยูเครน โฆษกรัฐบาลเยอรมนีกล่าว