ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | อาชญากรรม |
เผยแพร่ |
ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ถนนหลักในการขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรม ที่เชื่อมต่อภาคอีสานเข้ากับท่าเรือใน จ.ชลบุรี หรือ จ.ระยอง จากปริมาณรถบรรทุกจำนวนมากที่วิ่งขึ้น-ล่องในแต่ละวัน ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งทำมาหากินของขบวนการลักลอบซื้อขายน้ำมันเถื่อน หรือ “คอกน้ำมันเถื่อน”
“คอกน้ำมันเถื่อน” เหล่านี้จะอยู่ไม่ห่างจากถนนใหญ่อำพรางเป็นที่พักรถเล็กๆ ที่บรรดาสิงห์รถบรรทุกต่างรู้จักดี
สร้างผลประโยชน์แบ่งปันกันถ่วนหน้า ทั้งคนขับรถและพ่อค้าน้ำมันเถื่อน

ฆ่า ตร.-เมียท้อง 6 เดือน
จุดเริ่มต้นคดีสยองเริ่มต้นขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 11 พฤษภาคม ร.ต.ท.สันตพงศ์ บุปผา รอง สว.ป หัวหน้าตู้กรอกสมบูรณ์ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี นำกำลังรุดไปตรวจสอบเหตุต้องสงสัย ในหมู่บ้านหนองหอย หมู่ 10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลัง ด.ต.ชรินทร์ บุปผา หัวหน้าตู้กรอกสมบูรณ์ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนางจันสอน พลเยี่ยม อายุ 25 ปี ภรรยาชาวลาว ที่กำลังท้อง 6 เดือนของ ด.ต.สกล บรรลุ หรือดาบโก้ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ เพื่อนตำรวจ ที่โทร.ไลน์มาแจ้งว่ามีเหตุยิงกันพร้อมส่งโลเกชั่น พร้อมกับภาพถ่ายด้านท้ายรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันคันหนึ่งมาให้
ใช้เวลาเพียง 10 นาที ร.ต.ท.สันตพงศ์ ก็รุดไปถึงตามโลเกชั่นที่แชร์มา แต่ตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่โล่งสำหรับปลูกมันสำปะหลังและอ้อย แต่ไม่พบผู้ใด ซ้ำยังไม่สามารถติดต่อดาบโก้และภรรยาได้ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเหตุร้าย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วระดมกำลังตำรวจและอาสากู้ภัยร่วมกตัญญู จ.ปราจีนบุรี บูรณาการออกค้นหา
ร.ต.ท.สันตพงศ์ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ช่วงบ่าย ด.ต.สกล หรือดาบโก้ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ซึ่งเคยเป็นตำรวจประจำที่ สภ.ระเบาะไผ่ มาก่อน และนางจันสอน ภรรยา (ชาวลาว) ได้มาหาตนแล้วพักค้างคืนที่ที่พักสายตรวจกรอกสมบูรณ์
ต่อมาวันที่ 11 พฤษภาคม เวลาประมาณ 12.20 น. สองสามี-ภรรยาพากันขับรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตู ทะเบียน ศฐ 6280 กรุงเทพมหานคร ออกจากที่พักสายตรวจ แจ้งว่าจะไปกินอาหารแถวครองรั้ง
หลังจากขับรถออกไปได้ประมาณ 30 นาที นางจันสอนโทร.ไลน์มาหาบอกว่า “พี่โก้ลงไปดูเหตุอะไรไม่รู้ หนูได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หนูส่งโลเกชั่นให้แล้ว” พร้อมกับภาพถ่ายด้านท้ายรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันมาให้ ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก

ตำรวจระดมค้นหากันข้ามวันข้ามคืน กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ต.ท.สุวิทย์ ซุยเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนว่า ได้พบรถยนต์ปิกอัพอีซูซุ สีเงิน 4 ประตู ทะเบียน ศฐ 6280 กรุงเทพมหานคร ของ ด.ต.สกล ถูกจอดทิ้งอยู่ในป่ายูคาลิปตัส สภาพหน้ารถพุ่งลงไปในบ่อน้ำ พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กรอกสมบูรณ์ ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรีเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุจึงให้ประสานรถลากจูงเพื่อดึงรถออกจากบ่อน้ำข้างทาง
จากการตรวจสอบพบว่าที่บริเวณประตูข้างคนขับมีรูกระสุนปืน จำนวน 4 รู ภายในรถพบศพ ด.ต.สกล นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ศีรษะคว่ำหน้าอยู่บนพื้นที่วางเท้าด้านหน้าซ้าย ส่วนลำตัวอยู่ที่ช่วงคอนโซลกับเบาะนั่ง
ส่วนที่เบาะที่นั่งขวา (ที่นั่งคนขับ) มีรอยเลือดเลอะที่เบาะที่นั่ง โดยมีเสื้อพร้อมไม้แขวนเสื้อวางที่เบาะ ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้รองนั่งเพื่อขับรถพร้อมคนตายมาทิ้งจุดเกิดเหตุ
ส่วนที่นั่งด้านหลังพบศพนางจันสอน นอนตะแคงอยู่ตรงกลางที่วางเท้า สภาพจมกองเลือด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำศพออกจากรถเพื่อตรวจสภาพศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เบื้องต้นพบว่า ด.ต.สกล เสียชีวิตที่บริเวณเบาะด้านหน้ารถ ส่วนภรรยานอนตายที่เบาะหลังรถ


จากการตรวจสภาพศพ ด.ต.สกลถูกยิงที่หน้าอก จำนวน 4 รู แขนขวา แขนซ้าย ขาขวา ขาซ้าย รวม 15 นัด ส่วนภรรยาถูกยิงบริเวณราวนมขวา ชายโครงขวา จำนวน 8 นัด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าทั้งคู่ถูกคนร้ายฆ่าแล้วนำรถพร้อมผู้เสียชีวิตมาทิ้งเพื่ออำพรางศพ
หลังพบศพ พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบก.ภ.2 พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งระดมทีมชุดสืบสวนจาก ภ.2, ภ.จวปราจีนบุรี และ สภ.ระเบาะไผ่ ไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดในเส้นทาง
เพื่อหารถบรรทุกน้ำมันต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตอาจพบผู้ต้องหาคาดเป็นกลุ่มรับซื้อ-ขายน้ำมันเถื่อนจากรถสิบล้อบรรทุกน้ำมัน ที่วิ่งขนส่งน้ำมันตลอดทางยาวบนถนนตลอดสาย 304 ตั้งแต่ภาคอีสาน – ภาคตะวันออก – ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง พร้อมมีการลักลอบซื้อ – ขายในรายทาง จึงจอดรถลงไปตรวจสอบและจับกุม
แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัว ใช้ปืนยิงถล่มจนเสียชีวิต
ก่อนฆ่าภรรยาที่กำลังท้องเพื่อปิดปากพยาน จากนั้นจึงนำศพซุกไว้ในป่า

จับครอบครัวค้าน้ำมันเถื่อน
ตํารวจใช้เวลาเพียงวันเดียวก็ตามจับแก๊งคนร้ายได้ยกแก๊ง โดยพบว่าเป็นครอบครัวค้าน้ำมัน-เอทานอลเถื่อน ที่ลักลอบซื้อ-ขายอยู่ในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมีประวัติเคยถูกตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง
วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี, พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมชุดสืบสวนร่วมแถลงผลการจับกุมแก๊งครอบครัวค้าน้ำมันเถื่อน ก่อเหตุยิง ด.ต.สกล หลังคดีนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้ยกแก๊งรวมจำนวน 4 คน
ประกอบด้วย นายชัยวิชิต หรือต่าย ภู่มาลา อายุ 43 ปี ชาวบ้านหนองหอย ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มือปืน, น.ส.ธัญญารัตน์ ใจกล้า อายุ 42 ปี ภรรยาของมือปืน, นายชัยมงคล ภู่มาลา อายุ 23 ปี ลูกชายของทั้งคู่ และรายที่ 4 นายธรรมรัตน์ ภูมิมา อายุ 27 ปี เป็นลูกจ้างของมือปืน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐเผยว่า ด.ต.สกลพบกลุ่มผู้ต้องหากำลังลักลอบซื้อ-ขายเอทานอลผิดกฎหมาย จากรถสิบล้อบรรทุกเอทานอล บริเวณป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านหนองหอย หมู่ 10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้า
ด.ต.สกลจึงลงจากรถไปตรวจสอบโดยให้ภรรยารออยู่ในรถ แต่กลุ่มคนร้ายต่อสู้ขัดขืน จากนั้นนายชัยวิชิตใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกลจนเสียชีวิต
ขณะนั้นภรรยาของ ด.ต.สกลได้ยินเสียงปืนจึงโทร.ไลน์แจ้งเพื่อนของสามีให้ทราบพร้อมถ่ายรูปรถบรรทุกเอทานอล ส่งพิกัดจีพีเอสให้
ต่อมา หลังนายชัยวิชิตฆ่า ด.ต.สกลแล้วได้นำอาวุธปืนของ ด.ต.สกลมายิงภรรยาของ ด.ต.สกลจนเสียชีวิตภายในรถเพื่อฆ่าปิดปาก
ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะนำศพของ ด.ต.สกลและภรรยา พร้อมรถของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งไว้ในป่า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จนมีการติดตามพบในเวลาต่อมา
จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำลายหลักฐาน อาทิ นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง นำปืนที่ก่อเหตุไปฝัง ก่อนหลบหนีไป จ.นครนายก จนถูกตามจับกุมได้ทั้งหมด จากนั้นชุดจับกุมได้ตรวจสอบที่รถและบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหา พบของกลางจำนวน 18 รายการ อาทิ อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก, ปืนยาวอัดลม 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 ม.ม., เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 217 นัด, ระเบิดมือลูกเกลี้ยง M67 จำนวน 1 ลูก เป็นต้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวต่อว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเอทานอลมาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผอ.ศปนม.ตร. ขยายผลเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พร้อมกำชับ ตรวจสอบ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อไป
ขณะที่ศพของดาบโก้และภรรยา ทางครอบครัวได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลร่วมกันที่วัดโพธิ์ศรี ต.นาหมอม้า อ.อำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
การที่แก๊งซื้อขายน้ำมันเถื่อนเหิมเกริมถึงขั้นลงมือฆ่าตำรวจและฆ่าปิดปากเมียที่เป็นพยานคนเดียวเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ “บิ๊กต่าย” รรท.ผบ.ตร. จึงสั่งให้ลุยกวาดล้างต่อ ไม่ใช่เฉพราะในพื้นที่ปราจีนบุรี แต่ให้ขยายไปทั่วประเทศ
ลากคอไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังออกมาจากเงามืด ให้สังคมได้รับรู้กันไปเลย
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022