วุฒิสภาสหรัฐฯไฟเขียว ‘โรเบิร์ต โกเดค’ ดำรงตำแหน่งเอกอัครรัฐทูตประจำไทยคนใหม่

วุฒิสภาสหรัฐฯไฟเขียว ‘โรเบิร์ต โกเดค’ ดำรงตำแหน่งเอกอัครรัฐทูตประจำไทยคนใหม่

 

สำนักข่าววีโอเอภาคภาษาไทยรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐได้ให้ความเห็นชอบและรับรองการเสนอชื่อนายโรเบิร์ต (บ็อบ) เอฟ. โกเดค ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยแล้ว ทำให้นายโกเดคเตรียมตัวที่จะเดินทางมารับตำแหน่งที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

วีโอเอภาคภาษาไทยรายงานว่า นายโกเดคได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการรับฟังข้อมูลโดยคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาเมื่อเดือนที่แล้ว และวุฒิสภาสหรัฐ พิจารณาการเสนอชื่อและลงคะแนนแบบขานชื่อ (Voice Vote) ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม หรือก่อนที่สมาชิกสภาสูงจะพักสมัยประชุมจนถึงต้นเดือนหน้า

ในส่วนของประวัติการทำงานนั้น ว่าที่ทูตโกเดค ซึ่งจบการศึกษาขั้นสูงสุดในระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เริ่มทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ มาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1985 และรับตำแหน่งสำคัญ ๆ มาหลายตำแหน่ง อาทิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานประเทศไทยและเมียนมา ภายใต้สำนักกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ผู้อำนวยการกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ รวมทั้งรองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการแอฟริกา เอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศเคนยาและตูนิเซีย และที่ปรึกษาด้านกิจการต่างประเทศที่วิทยาลัยการสงครามแห่งชาติ หรือ National War College

เมื่อครั้งที่เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาที่พิจารณาการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งนั้น ว่าที่ทูตโกเดคได้เริ่มต้นด้วยการแถลงจุดยืนนโยบายการทำงานหากได้รับการยืนยันการแต่งตั้งว่า ตนจะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งความเป็นหุ้นส่วนและความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐและไทย เพื่อช่วยรักษาความมั่นคงของทั้งสองประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประเทศไทยนั้นเป็นพันธมิตรหลักนอกนาโต ที่สหรัฐมีความร่วมมือทางทหารกันอย่างต่อเนื่อง

ว่าที่ทูตสหรัฐ คนใหม่ยังยืนยันที่จะขยายความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศสูงถึงปีละ 60,000 ล้านดอลลาร์ด้วย รวมทั้งดำเนินภารกิจส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และความสำคัญของประเด็นสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง เสรีภาพในการแสดงออกด้วย

นอกจากนั้น ว่าที่ทูตโกเดค ยังประกาศความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยในการส่งถ่ายการเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค ที่สหรัฐจะรับช่วงต่อในปีหน้า

ขณะเดียวกัน สมาชิกคณะกรรมาธิการหลายคนได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ในไทยที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันมีความกังวลอยู่หลายอย่าง อาทิ เรื่องสิทธิมนุษยชนและการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ว่าที่ทูตโกเดคกล่าวว่า ขณะที่สหรัฐนั้นมีความเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และมีความเข้าใจดีเกี่ยวกับความเคารพนับถือของคนไทยต่อพระราชวงศ์ แต่ประเด็นเสรีภาพในการแสดงออกนั้นก็เป็นประเด็นที่มีความสำคัญยิ่ง และตนตั้งใจที่จะแสดงจุดยืนส่งเสริมสนับสนุนเรื่องนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงออกซึ่งความคิดของตนโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว โดยเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตนเคยดำเนินการมาแล้วในระหว่างทำหน้าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเคนยาและตูนิเซีย

อีกประเด็นที่มีสมาชิกคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาหยิบยกขึ้นมาถามระหว่างการให้ข้อมูลก็คือ เรื่องของสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งว่าที่ทูตโกเดคได้กล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกล่าวแถลงว่า ตนจะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อเรียกร้องให้นานาประเทศเดินหน้าประณามรัฐบาลทหารเมียนมาและการใช้ความรุนแรงปราบปรามสิทธิมนุษยชนนับตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐคนใหม่ประจำประเทศไทยยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐสนับสนุน ‘ฉันทามติ 5 ข้อ’ ที่อาเซียนเสนอให้เมียนมา แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนจากความพยายามด้านนี้ ซึ่งหมายความว่า สหรัฐต้องพยายามหาทางทำงานร่วมกับฝ่ายไทยในการสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารเมียนมาให้หนักขึ้น

หลังได้รับการรับรองจากวุฒิสภาแล้ว ว่าที่เอกอัครราชทูตจะเข้าพิธีสาบานตนก่อนเตรียมเดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อเตรียมการเพื่อเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการต่อไป