สัญญาณใกล้เลือกตั้ง? กกต.ออกระเบียบแจ้ง ครม. ถึงข้อห้าม หากพ้นตำแหน่งเหตุยุบสภา

กกต.ออกระเบียบแจ้ง ครม. เมื่อพ้นจากตำแหน่งจากเหตุยุบสภา มีข้อห้ามใช้ ทรัพยากร วิทยุ โทรทัศน์ ที่รัฐถือหุ้นใหญ่ เอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง

 

วันที่ 17 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าาด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563

มีเนื้อหาสำคัญ เป็นการแจ้งให้ ครม. รวมถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อพ้นจากตำแหน่งจากเหตุยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ มีข้อห้ามใช้ ทรัพยากร วิทยุ โทรทัศน์ ที่รัฐถือหุ้นใหญ่ เอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง

โดยในข้อ 5 ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในระหว่างที่อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือ มีการยุบสภา ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งด้วยวิธีการ ดังนี้

(1) ใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ โดยการกำหนดนโยบาย โครงการ แผนงาน โดยให้มีผลบังคับใช้ในทันที และมีลักษณะเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

(2) จัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่นอกเหนือจากการประชุมตามปกติ และมีการใช้ ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

(3) กำหนด สั่งการหรือมอบหมายให้มีการประชุม อบรม หรือสัมมนาบุคลากรของรัฐ หรือเอกชน โดยใช้เงินงบประมาณของหน่วยงานของรัฐหรือเงินของกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ โดยอาจให้มี การแจกจ่ายทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เว้นแต่เป็นการประชุมตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน แต่ต้องมิใช่เป็นการสร้างโอกาสให้เกิด ความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

(4) กำหนด สั่งการหรือมอบหมายให้มีการอนุมัติ โอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ รายจ่ายของหน่วยงานของรัฐหรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้หน่วยงานของรัฐหรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ ทำการแจกจ่ายทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่ประชาชน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษา ผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน แต่ต้องมิใช่เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

(5) กำหนด สั่งการหรือมอบหมายให้มีการแจกจ่ายหรือจัดสรรทรัพยากรของรัฐให้แก่บุคคลหนึ่ง บุคคลใด โดยไม่มีเหตุอันสมควร เว้นแต่เป็นกรณีต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน แต่ต้องมิใช่เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกัน ในการเลือกตั้ง

(6) ใช้พัสดุหรือเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากหน่วยงานของรัฐ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือใช้บุคลากรของรัฐปฏิบัติงานเพื่อสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

(7) ใช้ทรัพยากรของรัฐ เช่น คลื่นความถี่ หรือเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการส่ง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม หรือใช้งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานของรัฐ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ที่จะเป็น การสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง

ข้อ 6 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ กรณีใดที่มิได้กำหนดไว้หรือมีเหตุจำเป็น คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจกำหนดยกเว้นหรือผ่อนผัน การปฏิบัติตามความในระเบียบนี้ได้

จากนั้นนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตว่าทำไม กกต.ถึงเพิ่งออกประกาศระเบียบ กกต.เรื่องดังกล่าว เพราะตามที่ประกาศ ประธาน กกต. ลงนามตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.63 แล้วนั้น

จากการสอบถามจากแหล่งข่าวระดับสูงของ กกต. ระบุว่า เรื่องนี้สำนักงาน กกต. ได้ส่งระเบียบดังกล่าวไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนพ.ย.2563 แล้ว แต่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะเป็นผู้พิจารณาเองว่าช่วงเวลาไหนที่จะเหมาะสมในการลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงาน กกต.ได้ติดตามมาตลอด

เมื่อถามว่าการประกาศนี้จะส่งสัญญาณหรือการเตรียมความพร้อมอะไรหรือไม่ แหล่งข่าวระดับสูงของ กกต. กล่าวว่า ไม่ทราบเลย