พล็อตคุ้นๆ ‘ชูวิทย์’ เปรียบชีวิตแต่งงาน 8 ปี เจ็บแล้วจำ ขืนอยู่อีกเหมือน ตกนรกทั้งเป็น!

ชูวิทย์ เล่าสตอรี่คุ้นๆ เปรียบชีวิตแต่งงาน 8 ปีที่เจ็บแล้วจำ ขืนให้อยู่ด้วยอีก เหมือนตกนรกทั้งเป็น

 

วันที่ 7 สิงหาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจชื่อดัง เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก เรื่อง “ไดอารี่ 8 ปี ของฉัน” ซึ่งมีสตอรี่ที่คุ้นเคย ก่อนตบท้ายว่า “ฉันรู้ซึ้งแล้วว่า 8 ปีที่ผ่านมาเป็นยังไง ขืนให้ฉันอยู่กินกับเธอต่อไป มีหวังตกนรกทั้งเป็นต่อไปอีกนาน” และ “ไม่มีวันที่ชาตินี้จะมาร่วมหอลงโรงกับคนอย่างเธออีก”

“มาถึงวันนี้ ชีวิตแต่งงานของฉันคงไปไม่รอดแน่ นับเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ที่เธอฉุดกระชากลากถูฉันมาในชีวิตคู่อย่างไม่ตั้งใจ วันนั้นเธอทุบโต๊ะแย่งฉันมา บอกว่าฉันต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น ฉันจำใจต้องอยู่กับเธออย่างเสียมิได้

“พออยู่กินกัน เธอเริ่มออกกฎบังคับไม่ให้ฉันไปไหน จะทำอะไรต้องคอยรายงานเหมือนเป็นทหารรับใช้ ฉันกลายเป็น ‘นกน้อยในกรงทอง’ แต่เธอคอยปลอบฉันว่า ‘ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะคืนความสุขให้’ โดยร้องเพลงกล่อมฉันทุกเช้าเย็น

“เวลา 8 ปีผ่านไปอย่างกล้ำกลืน เธอไม่ได้คืนความสุข แถมยังเอาความทุกข์มาให้ฉัน ด้วยการเข้าบ่อนเล่นการพนันจนหน้าดำคร่ำเครียด ทำตัวเป็นคนละคน เอาแต่ดุด่า เกรี้ยวกราด บอกว่าเป็นผู้นำครอบครัว ต้องเหนื่อยยาก หาเงินมาจุนเจือ ฉันเอาแต่อยู่บ้าน ไม่ช่วยอะไร แล้วยังบ่นเซ้าซี้

“ส่วนเงินที่เคยให้ก็ยังกลับไปกลับมา เดี๋ยวให้ 500 ลดเหลือ 100 สักพักกลับมาให้ 500 อีก เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แถมบัตรลดเปอร์เซ็นต์ซื้อของที่ห้าง เดี๋ยวให้ใช้ 2 ใบควบ บอกลดได้มากกว่า แล้วกลับมาให้ใช้ใบเดียวบอกว่า ง่ายดี

“ความสับสนเกิดขึ้นกับชีวิตฉันไม่เว้นแต่ละวัน นั่นเป็นเพราะเธอเสียนิสัยจากการพนัน เข้าบ่อนจนกลายเป็น ‘นักพนันอาชีพ’ ไปเสียแล้ว พูดจาอะไรไม่อยู่กับร่องกับรอย เชื่อถืออะไรไม่ได้ อารมณ์หงุดหงิดตลอด โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ฉันสังเกตได้ว่า เธอมีแต่เล่นเสียกับเสีย ไม่เคยได้

“เธอมีพรรคพวกประจำร่วมก๊วนกันอยู่ 3 คน ที่คบหากันมาแต่เด็ก แทนที่จะช่วยกันตักเตือน กลับพากันไปเที่ยวกินเหล้าเมายา ชอบเรื่องอบายมุข เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เป็นขาใหญ่ในวงไฮโล เงินในบ้านก็ร่อยหรอ แต่พวกเธอกลับเอาแบงก์พันที่สะสมมาแตกเป็นแบงก์ร้อย เข้าบ่อนไปเล่นจนที่บ้านไม่เหลืออะไร ใช้จนหมด

“อ้างว่าคุยกับเพื่อนอีก 2 คนแล้ว สรุปว่าลงทุนน้อยหลายๆ วง แต่เวลาได้รวมๆ กันจะได้มากกว่าเก่า เพราะเล่นแบบเก่าหลังๆ มีแต่เสีย ทุ่มหมดหน้าตักทีไรเป็นเสียไปหมด เอาวิธีนี้ดีกว่า หากเธอได้ ฉันก็จะได้ไปด้วย แล้วเราก็จะมีความสุขเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา

“โอ้แม่เจ้า นี่เธอไปอยู่ในโลกไหนมา เธอเคยรู้สึกบ้างไหมว่า 8 ปีที่อยู่กินกันมา เธอนำแต่ความทุกข์ระทมมาให้ฉัน อดมื้อ กินมื้อ อดทนกับเธอมาสารพัด จนฉันพูดกับตัวเองว่า ‘พอกันที มันนานเกินไปเสียแล้ว ฉันเสียเวลากับเธอมามากเกินไป’

“แต่เธอกลับไม่รู้สึกตัว คิดหมกหมุ่นกับก๊วนขาประจำของเธอ สมองวนเวียนแต่จะเปลี่ยนกติกายังไงถึงจะชนะวงไฮโล น้ำเต้าปูปลา ที่ในบ่อนมีแต่พวก 18 มงกุฎ หน้าไหว้หลังหลอก หวังจะปอกลอกเธอ พวกเธอตัดสินใจตั้งวงใหม่ เปลี่ยนกติกา แล้วใช้วิธีการอ้างชื่อเธอเพราะเป็นขาใหญ่ แตกสาขาไป ‘เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน’ ทำแบบเงียบๆ หวังจะฟลุคกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเก่า ทั้งๆ ที่เธอน่าจะรู้ตัวว่า ‘พอแล้ว’

“แต่เพราะความมัวเมากับสิ่งที่เคยได้มาก่อน ทำให้เธอ ‘เห็นกงจักรเป็นดอกบัว’ ไปปล่อยกู้ดอกฟรีให้กับพวก ‘ลิงหลอกเจ้า’ ทั้งหลาย ที่คบกันได้เพราะเงินฟาดหัวเท่านั้น

“ฉันคิดในใจว่า ในอดีตที่ผ่านมาฉันถูกหลอกล่อต่างๆ นานา ทั้งสัญญาคืนความสุขบ้าง เศษเงินที่โยนให้ฉันบ้าง เวลาฉันเอ่ยปากขออะไรที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรค กว่าจะได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ หรืออาหารที่พาเหรดกันขึ้นราคา ชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่เธอมักกรอกหูฉันเสมอว่า ไม่รู้หรือว่าเธอทำงานเหนื่อยแค่ไหน? ที่ทำไปก็เพื่อครอบครัว

“ฉันว่าไม่ใช่หรอก ที่เธอต้องวางแผนเอาชนะให้ได้เงินจากการเล่นพนัน เป็นเพราะเจ้ามือดันประกาศว่าจะ ‘แดกรอบโต๊ะ’ เสียมากกว่า เธอหลงตัวเอง กลายเป็นคนอารมณ์สองขั้ว เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย หาสารพัดวิธีเพื่อชนะ แล้วแอบมากระซิบก่อนขึ้นเตียงว่า ‘เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง’

“ฉันรู้ซึ้งแล้วว่า 8 ปีที่ผ่านมาเป็นยังไง ขืนให้ฉันอยู่กินกับเธอต่อไป มีหวังตกนรกทั้งเป็นต่อไปอีกนาน

“ฉันคิดว่าท้ายสุด คงต้องหอบเสื้อผ้าหนีกลับบ้านพ่อแม่ฉันเสียดีกว่า แยกทางกันและเก็บอดีตไว้ ว่า ‘เจ็บแล้วจำ’

“ไม่มีวันที่ชาตินี้จะมาร่วมหอลงโรงกับคนอย่างเธออีก”