โควิดหวนคร่าพุ่ง-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สวนกระแสโลกติดเชื้อเพิ่ม!

 

วันที่ 16 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) พบยอดผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 หวนกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ยอดติดเชื้อในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางกลับมาพุ่งขึ้นทะยานขึ้นอีกครั้ง

WHO ระบุถึงการประเมินสถานการณ์ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ประจำสัปดาห์ ว่ายอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 หลังมีแนวโน้มลดลงมาตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นยอดผู้เสียชีวิต 8,700 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ในทวีปอเมริกา และร้อยละ 17 ในซีกตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก

ด้านการติดเชื้อทั่วโลกนั้นแนวโน้มโดยรวมมีปริมาณลดลงต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3.2 ล้านคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนม.ค. แต่ยังพบว่ามีบางพื้นที่ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 58 และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 ตามลำดับ

นายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกบรียีซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่า ปริมาณผู้ติดเชื้อที่ลดลงโดยรวมอาจเป็นผลมาจากหลายชาติลดการตรวจเชื้อทำให้ตัวเลขที่พบต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่การเสียชีวิตของผู้คนจากโรคโควิด-19 นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันมีทั้งวัคซีนป้องกัน กระบวนการตรวจหาเชื้อและยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพแล้ว

รายงานระบุว่า แม้ชาติร่ำรวยหลายประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปจะยกเลิกมาตรการสกัดกั้นการระบาดของไวรัสแล้วแทบทั้งหมด แต่ประเทศจีนยังคงเดินหน้าใช้ยุทธศาสตร์กวาดล้างโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์ล่าสุดของการระบาดจากไนต์คลับที่กรุงปักกิ่งยังคงทำให้ชาวจีนทั้งหมดในเมืองต้องตรวจหาเชื้อทุกๆ 2-3 วัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงสแกนสมาร์ตโฟนก่อนเข้าใช้บริการสาธารณะ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในสหรัฐอเมริกานั้น สำนักงานอาหารและยา (FDA) เตรียมอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาให้ใช้ในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปีแล้ว หลังผู้เชี่ยวชาญพบว่าประโยชน์ที่ได้จากวัคซีนนั้นมีมากกว่าผลเสียจากความเสี่ยงของวัคซีน