เซเลนสกีโวยูเครนอาจชนะสงครามแต่จบลงบนโต๊ะเจรจา รัสเซียหยุดส่งก๊าซให้ฟินแลนด์

เซเลนสกีโวยูเครนอาจชนะสงครามในสนามรบ แต่สุดท้ายต้องจบที่โต๊ะเจรจา รัสเซียหยุดส่งก๊าซให้ฟินแลนด์แล้ว หลังประกาศเข้าร่วมนาโต

 

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาระบุผ่านการประกาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า ประเทศยูเครนสามารถได้รับชัยชนะเหนือรัสเซียในพื้นที่สู้รบ อย่างไรก็ดี สงครามจะยุติลงได้บนโต๊ะเจรจาเท่านั้น

เซเลนสกีกล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการนองเลือด และจะทำให้เกิดการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่ามันจะจบลงได้ผ่านหนทางทางการทูตเท่านั้น อย่างไรก็ดี เขารับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต่างฝ่ายต่างไม่อยากยอมแพ้

คำประกาศดังกล่าวของเซเลนสกีมีขึ้นขณะที่ยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเมืองซีวีโรโดเนสค์ ขณะที่กองทหารรัสเซียได้เพิ่มความพยายามที่จะยึดภูมิภาคลูฮานสค์ทั้งหมดเอาไว้ในความครอบครอง

ก่อนหน้านี้รัสเซียเพิ่งประกาศยุติการสู้รบในเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน หลังจากสามารถยึดครองพื้นที่ทั้งหมดไว้ได้แล้ว ทำให้สามารถพุ่งความสนใจไปที่การสู้รบในพื้นที่ทางฝั่งตะวันออก

นายกเทศมนตรีเมืองซีวีโรโดเนสค์ในลูฮานสค์ กล่าวว่า รัสเซียได้ทำลายเมืองซีวีโรโดเนสค์ขณะที่ค่อยๆ ยึดครองพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ดี กองกำลังยูเครนได้ตอบโต้กลับและสามารถทำลายรถถังของรัสเซียไปได้ถึง 8 คัน ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีระบุว่า ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของข่าวดังกล่าวได้

ขณะที่ ก๊าซพรอม บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียได้ยุติการส่งก๊าซให้กับฟินแลนด์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ได้มีการประกาศก่อนหน้านี้ หลังจากที่ฟินแลนด์ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าพลังงานเป็นเงินสกุลรูเบิล ตามที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเรียกร้อง

Gasum บริษัทก๊าซของฟินแลนด์ระบุว่า การส่งก๊าซธรรมชาติมายังฟินแลนด์ภายใต้สัญญาของบริษัทถูกรัสเซียตัดขาดเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยถือเป็นการยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียโดยฟินแลนด์หลังจากที่มีการดำเนินการมายาวนานเกือบ 50 ปี

การยุติการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้ฟินแลนด์มีขึ้นหลังจากที่รัสเซียได้ประกาศว่าจะตัดการส่งออกไฟฟ้าให้กับฟินแลนด์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่บริษัทน้ำมันของฟินแลนด์ก็ได้ประกาศที่จะทดแทนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียด้วยการนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่นแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การระงับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังฟินแลนด์เป็นสิ่งที่ดำเนินการได้ง่ายกว่าประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป เนื่องจากสัดส่วนการผลิตพลังงานโดยใช้ก๊าซธรรมชาติของฟินแลนด์มีเพียง 5% และมีเพียง 4,000 ครัวเรือนเท่านั้นที่ต้องพึ่งพาระบบทำความร้อนด้วยแก๊ส