‘ราเมศ’ ฉะ ‘โรม’ โฆษกพรรคที่ดีอย่ามารยาททราม ขู่เตรียมฝ่ายกม.เกาะคำพูดยื่นฟ้อง กกต.

“ราเมศ” ฉะ “โรม“ เป็นโฆษกพรรคที่ดีอย่ามารยาททราม เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาทุกคำพูดส่งให้ กกต. วินิจฉัย โจมตีใส่ร้ายหรือไม่ เหตุอยู่ในช่วง ลต.ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.

 

วันที่ 3 พ.ค.นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาเปรียบเทียบพรรคประชาธิปัตย์เป็นเห็บ เมื่อหมาตายก็พร้อมจะกระโดดหนี จากการร่วมรัฐบาลว่าในฐานะตนเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ คงมิบังอาจไปสอนหลักการ การเป็นโฆษกพรรคที่ดีต่อนายรังสิมันต์ได้ ยิ่งหลักการในเรื่องมารยาทดีกับมารยาททรามยิ่งไม่สามารถสอนได้ เพราะเป็นเรื่องของจิตสำนึกลึกๆ มาตั้งแต่เกิด เรื่องเช่นนี้จึงไม่สามารถดัดนิสัยในตอนอายุเพิ่มมากขึ้นได้ จึงไม่ขอก้าวล่วงไปชี้แนะ

“ขอย้ำว่าการร่วมรัฐบาลของพรรคไม่ได้เข้าร่วมเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน ทำประโยชน์ให้กับประชาชน” นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พรรคดำเนินการทางการเมืองตรงไปตรงมาให้เกียรติกับผู้ร่วมงานตลอดมา ไม่มีความคิดที่จะไปหักหลัง หรือแทงข้างหลังใคร เชื่อว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีวุฒิภาวะจะตระหนักในหลักการกระบวนการในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นการต่อสู้กันในสภาด้วยเหตุและผล การกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่โจมตีใส่ร้ายไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงทั้งสิ้น ซึ่งตนย้ำอยู่เสมอว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิของฝ่ายค้านตามระบบประชาธิปไตย พรรคไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนกรณีนายรังสิมันต์กล่าวถึง กระทรวงพาณิชย์เรื่องปัญหาของแพงนั้น ต้องขอย้ำว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดและแก้ปัญหา ดำเนินคดีกับพวกฉวยโอกาสอย่างเต็มที่ แต่ต้องยอมรับว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้สินค้าบางอย่างขึ้นราคา ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการผลิตสินค้า กระทรวงพาณิชย์ยังเข้มงวดราคาสินค้าจำเป็น 18 หมวด รวมถึงอาหารสด ที่ห้ามขึ้นราคาโดยไม่จำเป็น ซึ่งการดำเนินการกล่าวก็ประสบความสำเร็จ และปัจจุบันสถานการณ์ราคาอาหาร และสินค้าในแต่ละพื้นที่ได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นายราเมศกล่าวต่อว่า ทุกถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของโฆษกพรรคก้าวไกล ตนจะส่งให้ฝ่ายกฎหมายที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก.เพื่อพิจารณเหตุผล ยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา เพราะขณะนี้อยู่ในระหว่างการเลือกตั้ง การใส่ร้าย โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยถ้อยคำที่เป็นเท็จ ถือได้ว่าเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของพรรคที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. และผู้สมัคร ส.ก. ขอย้ำว่านักการเมืองที่มีวุฒิภาวะจะไม่ใช้วิธีการโจมตีใส่ร้ายกันเช่นนี้ แต่ควรมีหลักการที่ดีในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง