2 รมต.สหรัฐฯเยือนกรุงเคียฟพบ ‘เซเลนสกี้’ ให้คำมั่นสนับสนุนทางทหาร-นำทูตกลับประจำที่

วันที่ 25 เมษายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า 2 ตัวแทนระดับสูงจากสหรัฐฯอย่าง แอนโทนี บลิงเก้น รัฐมนตรีต่างประเทศและรอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ได้เดินทางด้วยรถไฟจากโปแลนด์ถึงกรุงเคียฟของยูเครนและเข้าพบโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล นับเป็นการเยือนยูเครนครั้งแรกของสหรัฐฯ นับตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพเข้ารุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่สถานการณ์การรบปะทะกันอย่างหนักตลอด 2 เดือน

การพบกันระหว่างตัวแทนระดับสูงจากสหรัฐฯและรัฐบาลยูเครน ได้หารือกันเป็นเวลา 3 ชม.

บลิงเก้นได้ทวิตข้อความหลังการหารือกับรัฐบาลยูเครนว่า เราได้รับแรงบันดาลใจจากการฟื้นคืนชีพของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ในยูเครน ในการเผชิญสงครามการรุกรานอันโหดร้ายของประธานาธิบดีปูติน ขณะที่การต่อสู้ในภาคตะวันออก บดบังการเฉลิมฉลองทางศาสนาของออร์โธดอกซ์อีสเตอร์

ผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯทั้ง 2 ให้คำมั่นกับรัฐบาลยูเครนที่จะสนับสนุนทางการทหาร รวมถึงอาวุธใหม่เข้ามาช่วยการรบให้กับยูเครน รวมถึงการส่งทูตสหรัฐฯกลับไปประจำการในกรุงเคียฟ โดยก่อนหน้านี้ อีกอร์ ซอฟก้าร์ ที่ปรึกษาของเซเลนสกี้ กล่าวต่อช่องข่าวเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า ทางการยูเครน ได้เปิดเผยรายการอาวุธที่ต้องการอย่างเร่งด่วนจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ระบบป้องกันขีปนาวุธ ระบบอาวุธต่อต้านอากาศยาน ยานยนต์หุ้มเกราะและรถถัง

การเยือนของผู้แทนระดับสูงจากสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนในความขัดแย้งที่กองทัพยูเครน ได้รับการเสริมอาวุธจากชาติตะวันตกในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่โถมกำลังบุกหมายเข้ายึดเมืองหลวงอย่างเคียฟ แต่ต้องล้มเหลวจากการตอบโต้แบบสงครามจรยุทธ์ใส่ขบวนยานเกราะของกองทัพรัสเซียในหลายจุดและสามารถตีโต้จนกองทัพรัสเซียล้มเหลวในแผนการยึดเมืองหลวงและหันมาเปลี่ยนแนวยุทธวิธีในการตียูเครนจากภาคตะวันออกและภาคใต้แทน

นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯจะมีการประกาศชื่อเอกอัครรัฐทูตคนใหม่ ซึ่งจะเดินทางกลับไปประจำการในกรุงเคียฟในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่า ไม่มีอะไรมาทดแทนการขับเคลื่อนแบบต่อหน้ากันได้ และแน่นอนว่านับเป็นการแสดงเชิญสัญญะในการให้ทูตรสหรัฐฯกลับไปยังยูเครน