นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีออสเตรเลีย แถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่ารัสเซียจะต้องได้รับการลงโทษกับความผิดที่กระทำ พร้อมทั้งเตือนว่าหากไม่สามารถลงโทษรัสเซียได้ อาจเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับชาติอื่นๆที่จะทำสงครามรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน

เซเลนสกี เรียกร้องให้มีการประกาศคว่ำบาตรรัสเซียให้รุนแรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งระบุว่าความล้มเหลวในการควบคุมมหาอำนาจในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นทำให้รัสเซียได้ใจมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ออสเตรเลียและพันธมิตรชาติตะวันตกเริ่มต้นแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของจีนที่มีต่อไต้หวัน ในช่วงที่ผ่านมา และกังวลว่าสถานการณ์ในยูเครนอาจเกิดขึ้นได้กับไต้หวันเช่นกัน

ทั้งนี้ออสเตรเลีย ส่งยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับยูเครน รวมไปถึงการประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าแร่ธาตุบางอย่างจากรัสเซียลงด้วย โดยล่าสุดรัสเซียประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้ว 476 รายการ กับชาวรัสเซีย 443 คน ในจำนวนนี้รวมไปถึงนักธุรกิจชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย

เตรียมรับมือรัสเซียบุกจากทิศตะวันออก

วันเดียวกันนายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยด้วยว่า กองทัพยูเครนกำลังเตรียมความพร้อมรับมือกับการโจมตีครั้งใหม่ของกองทัพรัสเซียในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศหลังกองทัพยูเครนสามารถต้านทางกองกำลังของรัสเซียในแนวรบในกรุงเคียฟเอาไว้ได้

นายเซเลนสกี เปิดเผยในช่วงเช้าของวันที่ 31 มีนาคมระบุว่า การที่กองทัพรัสเซียเคลื่อนกำลังออกห่างจากกรุงเคียฟ และเชอร์นิกอฟตอนเหนือของประเทศนั้นไม่ใช่การถอนทหารแต่เป็นผลจากการต่อต้านของกองทัพยูเครน

นอกจากนี้ยัง เปิดเผยด้วยว่า ยูเครน พบการสะสมกำลังของกองทัพรัสเซียเพื่อเตรียมโจมตีครั้งใหม่ในแคว้นดอนบาส และกองทัพยูเครนก็เตรียมพร้อมรับการโจมตีดังกล่าวอยู่ ซึ่งแคว้นดอนบาส ก็รวมไปถึงเมืองมารีอูปอล เมืองท่าที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพยูเครนสามารถโจมตีโต้กลับกองทัพรัสเซียและยึดพื้นที่ชานกรุงเคียฟ รวมถึงเมืองและหมู่บ้านที่เป็นจุดยุทธศาสตร์คืนมาได้หลายแห่ง ทั้งทางตะวันออกเฉียงเหนือ และทางตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่รัสเซียประกาศว่าจะลดกิจกรรมทางการทหารโดยรอบกรุงเคียฟ และเมืองเชอร์นิกอฟ ลงในการเจรจาสันติภาพที่ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา