จับตาโควิดลูกผสม “โอมิครอน” BA.1+BA.2 อาจแพร่เร็ว 126% หวั่นเป็นระลอก 6?

เผย “เดลตาครอน” ในต่างประเทศ กระจายไม่เร็ว อาการไม่รุนแรง ส่วนลูกผสม “โอมิครอน” BA.1+BA.2 น่าจับตา อาจแพร่เร็ว 126% หวั่นเกิดระลอก 6 ย้ำยังไม่พบในไทย

 

วันที่ 18 มี.ค. ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงการพบสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน” ระหว่างเดลตาและโอมิครอน กับลูกผสมโอมิครอนด้วยกันระหว่าง BA.1 และ BA.2 ว่า ขณะนี้ส่วนใหญ่พบเดลตาครอนในฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ส่วนอังกฤษมีบ้าง จากข้อมูลยังไม่พบการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว คนที่ติดไม่มีอาการรุนแรง ไม่ต่างจากโอมิครอนทั่วไป

ในฐานข้อมูลกลางโลก (GISAID) พบสายพันธุ์เดลตาครอนมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละพื้นที่ จำนวนไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าเดลตาครอนเปรียบเหมือนเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กไม่แข็งแรงสมบูรณ์หรือพิการ เพราะฉะนั้นก็จะแพร่ระบาดสืบทอดลูกหลานได้ไม่ดี ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ไม่ได้จัดให้อยู่ในสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOC) เพียงแต่ออกมาเตือนล่วงหน้าว่ามีสายพันธุ์ลูกผสมเกิดขึ้น เพื่อให้ระมัดระวัง

สำหรับประเทศไทยส่วนใหญ่เป็น “โอมิครอน” อาจจะเกิดเดลตาครอนได้ยาก หากจะมีเกิดขึ้นน่าจะเป็นการนำเข้าจากประเทศอื่นมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเกิดประเทศใดก็ตาม หากมีการระบาดก็สามารถแพร่กระจายได้ทั่วโลก แม้แต่จีนที่มีการล็อกดาวน์เชื้อก็ยังหลุดเข้าไปได้ผ่านสิ่งของวัสดุ เพราะเชื้อไวรัสอยู่บนพื้นผิวได้ 7-8 วันเป็นธรรมชาติ แม้จะควบคุมอย่างไรก็สามารถหลุดเข้าไปได้ เพราะไวรัสเป็นนักฆ่าเพื่อความสมดุล

ส่วนลูกผสมโอมิครอนระหว่าง BA.1+BA.2 น่าจับตามากกว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่มีการคำนวณผ่านระบบคอมพิวเตอร์คร่าวๆ จากรหัสพันธุกรรมที่ถอดได้กับระยะเวลาที่พบเชื้อ พบอัตราการติดเชื้อที่แพร่ได้มากขึ้นจาก BA.2 ในสัดส่วน 126% แต่การคาดการณ์ดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ในธรรมชาติหรือหน้างานต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักพัก

อย่างไรก็ตาม นอกจากพบในอิสราเอลตามที่ปรากฎข่าว ใน GISAID มีรายงานการพบที่อังกฤษและไอร์แลนด์ 267 ราย เท่าที่ดูข้อมูลรหัสพันธุกรรมยังไม่มีการนำส่วนสำคัญที่สร้างโปรตีนหนามมาแลกเปลี่ยนกันเป็นลูกผสม ความรุนแรงก็อาจจะยังไม่ต่างจากสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน ซึ่งยังต้องจับตามองว่าท้ายที่สุดจะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ส่งผลให้เกิดการระบาดระลอกที่ 6 หรือไม่ โดยพิจารณาหากผสมกันแล้วมีอัตราการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นเหนือกว่าตัวอื่นอย่างมากจนชนะ ขณะเดียวกันก็ยังไม่สามารถระบุเป็นฆาตกรหรือคนดี จนกว่าจะเห็นพฤติกรรมความรุนแรง

ทั้งนี้ WHO ได้ออกมาเตือนถึงการมองโอมิครอนจะเป็นสายพันธุ์สุดท้าย ทำให้คนการ์ดตก หรือมองว่ากำลังจะเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่ง WHO มองว่าน่าจะมีสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้มากกว่าโอมิครอนที่อาจจะเป็นการระบาดระลอกที่ 6 ซึ่งโอมิครอนกลายพันธุ์ไปจากอู่ฮั่นประมาณ 100 ตำแหน่ง ตัวที่ 6 จะต้องกลายพันธุ์มากกว่าโอมิครอนหลายตำแหน่ง แต่จะร้ายกาจรุนแรงหรือไม่ยังไม่รู้ ลูกผสม BA.1+BA.2 เป็นแคนดิเดตหนึ่งที่ต้องจับตา สำหรับประเทศไทยที่ศูนย์จีโนมฯ ยังไม่พบลูกผสม BA.1+BA.2 แต่หากพบก็ไม่น่าประหลาด เพราะไวรัสสามารถแพร่มาได้ทุกทางหากการ์ดตก จึงต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั่วโลก