ทูตยูเครนแถลงศึกรัสเซียรุกราน สื่อไทย-เทศร่วมฟังแน่น ร้องประกาศเขตห้ามบิน พร้อมฟื้นมิตรภาพหากหยุดเข่นฆ่า

สื่อไทย-เทศร่วมแน่นห้อง! ทูตยูเครนจัดแถลงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ย้ำเรียกร้องประกาศเขตห้ามบิน เผยกลับมาเป็นมิตรได้หากหยุดเข่นฆ่าประชาชน ชี้เป็นสงครามของ “ปูติน” ชาวรัสเซียไม่ได้ประโยชน์

 

วันที่ 18 มีนาคม 2565 เมื่อเวลา 11.00 น. ณ ห้องจัดเลี้ยงเบเวอรี่ ฮิลล์ โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าว สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นท่าทีของฝั่งยูเครนหลังจากที่ เยฟเกนี โทมิคิน เอกอัครรัฐทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงย้ำความชอบธรรมในปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนไม่กี่วันก่อน ภายในสถานทูตรัสเซียซึ่งเปิดให้เฉพาะสื่อไทยบางสำนักเข้าไปฟังและปิดกั้นไม่ให้สื่อต่างชาติเข้าร่วมงานแถลงข่าว ทว่างานแถลงข่าวของทางสถานทูตยูเครน กลับมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศร่วมงานอย่างเนืองแน่น โดยมี โอเล็คซานเดอร์ ไลแซค (Oleksandr Lysak) อุปทูตและรักษาการอัครรัฐทูตยูเครน เป็นผู้แถลงข่าวด้วยสีหน้าหม่นหมองและกังวล

อุปทูตไลแซคกล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนหลังตั้งรับต้านการรุกรานของรัสเซียจนเข้าสู่วันที่ 23 ว่า สถานการณ์ยูเครนในตอนนี้เป็นยังไง ผมบอกได้ว่า หนักหน่วงและเจ็บปวด ผมจะสรุปคร่าวๆเพื่อให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณในความกรุณาจากรัฐบาลไทยและชาวไทยทุกคน ที่ออกมาสนับสนุนยูเครนในการแสวงหาสันติภาพ อย่างที่ทราบกันว่า ไทยเป็น 1 ใน 141 ประเทศที่สนับสนุนให้ประณามรัสเซียต่อการรุกรานยูเครน ประชาชนและเอกชนของไทยสนับสนุนเงินบริจาคให้เกือบ 7 ล้านเพื่อการช่วยเหลือยูเครน และย้ำว่าการรับบริจาคยังคงดำเนินต่อไป

รัสเซียเปิดฉากการรุกรานวันที่ 24 กุมภาพันธ์ รุกล้ำดินแดนของยูเครนและโจมตีด้วยกำลังทหาร ปืนใหญ่ มิสไซล์ เข่นฆ่าพลเรือนและทำลายสิ่งปลูกสร้าง การกระทำลักษณะรุกรานของรัสเซีย ตามมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ รัสเซียยังคงทำการโจมตีต่อไป โดยส่งกำลังทั้งจากรัสเซีย,เบลารุส และพื้นที่ยึดครองชั่วคราวในแคว้นโดแนสก์,ลูฮันสก์และไครเมีย นี่คือสงครามเต็มรูปแบบ โดยรัสเซียกระทำกับยูเครน

แม้รัสเซียจะได้เปรียบอย่างมาก แต่พวกเขากลับล้มเหลวที่ไปถึงเป้าหมายสำคัญ ยูเครนยังไม่ยอมแพ้และหยุดยั้งการรุกคืบ ศูนย์กลางบัญชาการในกรุงคียีฟยังคงรอดพ้นเงื้อมมือพวกเขา ยังไม่มีเมืองใหญ่ใดในยูเครน ยกเว้นเมืองเคอร์ซันถูกยึดครอง ยูเครนตั้งกำลังป้องกันและตอบโต้กลับ ไม่มีชาวยูเครนคนใดต้อนรับรัสเซีย ที่ใดที่รัสเซียเข้ายึดครอง จะมีชาวยูเครนออกมาประท้วงขับไล่พวกเขา

รัสเซียมีความพยายามตั้งสาธารณรัฐประชาชนในพื้นที่ยึดครอง แต่หน่วยงานในพื้นที่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

การป้องกันของยูเครน สถานการณ์ทางทหาร ยังคงมีการโต้กลับอย่างดุเดือดในหลายเมือง ไม่ว่าในซิโตมี,ซูมี, เมริโทโปล,มาริอูโปล หรือพื้นที่ชานเมืองกรุงคียีฟ

สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในการรุกรานยูเครนคือเมืองมาริอูโปล มีพลเมืองมากกว่า 2,300 ชีวิต ต้องล้มตายจากการโจมตีของรัสเซีย โครงสร้างของเมือง ที่อยู่อาศัยจนถึงโรงพยาบาลถูกทำลายยับมากกมาย

สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติบันทึกว่ามีผู้สูญเสียราว 1,900 รายในยูเครน โดย เสียชีวิต 726 รายและบาดเจ็บ 1,174 ราย หลายคนสูญเสียบ้านของพวกเขา กองทหารรัสเซียละเมิดระเบียงเพื่อมนุษยธรรมเป็นประจำ

ตามข้อมูลของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ชาวยูเครนกว่า 3.1 ล้านคนต้องลี้ภัย ตามการประมาณการเบื้องต้นของคณะรัฐมนตรียูเครน ความเสียหายต่อเศรษฐกิจของยูเครนได้มาถึง 5.65 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เราต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนและเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน

ในเรื่องนี้ มีการดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านชายแดนรัฐของประเทศยูเครนในช่วงระยะเวลาของกฎอัยการศึก

ยูเครนได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากกว่า 70,000 ตัน เรารู้สึกขอบคุณพันธมิตรของเราและคาดหวังให้องค์กรระหว่างประเทศมีส่วนร่วมมากขึ้นในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงการจัดตั้งทางเดินเพื่อมนุษยธรรมที่ถูกกองทหารรัสเซียขวางกั้น รับรองการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังสถานพยาบาล และการจัดหาอาหารที่สำคัญให้กับประชากรพลเรือน

อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงสู้ต่อไปและเราจะชนะ กองกำลังติดอาวุธของยูเครนต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธของรัสเซีย สร้างความหายนะให้กับพวกเขา พลเมืองยูเครนมากกว่า 100,000 คนได้เข้าร่วมหน่วยป้องกันดินแดนแล้ว อาสาสมัครเกือบ 20,000 คนจาก 52 ประเทศทั่วโลกเดินทางเพื่อเข้าร่วมกองกำลังอาสานานาชาติของยูเครน 92% ของพลเมืองยูเครนเชื่อว่าเราจะชนะสงครามกับรัสเซีย นายกเทศมนตรีเมืองต่างๆ ของยูเครนปฏิเสธข้อเสนอยอมจำนนของรัสเซีย สิ่งที่สำคัญมากคือ โลกสนับสนุนยูเครนและรัสเซียถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ

เรายินดีรับทุกย่างก้าวของรัฐบาลต่างประเทศและสถาบันระหว่างประเทศเพื่อนำรัสเซียเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปตัดสินใจแจ้งรัฐบาลรัสเซียให้งดเว้นจากการโจมตีทางทหารต่อพลเรือนและวัตถุพลเรือน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศเปิดการสอบสวนสถานการณ์ในยูเครน เจ้าหน้าที่สอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศ ได้ถูกส่งไปยังยูเครนเพื่อรวบรวมหลักฐานแล้ว

และสุดท้ายก่อนเมื่อวานนี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ของสหประชาชาติได้สั่งให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน โดยกล่าวว่าศาลไม่เห็นหลักฐานใดๆ ที่สนับสนุนความชอบธรรมของเครมลินในการทำสงคราม ศาลปกครองด้วยคะแนนเสียง 13 ต่อ 2 เสียงสำหรับคำสั่งชั่วคราวที่ว่า “สหพันธรัฐรัสเซียจะระงับการปฏิบัติการทางทหารทันทีที่เริ่มในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ในดินแดนยูเครนในทันที การดำเนินการเพิ่มเติมของประชาคมระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการทันที:

– เขตห้ามบินเหนือยูเครนเพื่อยุติการปลอกกระสุนของพลเรือนโดยรัสเซียและรับรองความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเช่นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
– เสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน รวมถึงการจัดหาเครื่องบินทหาร – ตัดการเชื่อมต่อธนาคารรัสเซียทั้งหมดจาก SWIFT;
– กำหนดห้ามค้าขายกับรัสเซีย รวมถึงในภาคน้ำมันและก๊าซ เช่นเดียวกับการขายทองคำและแร่ธาตุ
– ห้ามช่องโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียทุกช่องที่เผยแพร่การปลอมแปลงในสงครามของรัสเซียกับยูเครน
– สนับสนุนยูเครนด้วยอุปกรณ์ป้องกัน, กระสุน, เชื้อเพลิง, และอะไรก็ตามที่จำเป็นเพื่อตอบโต้กองทัพที่ใหญ่ที่สุดในทวีป;
– การกำหนดโลก: ยุติอิทธิพลของปูตินในด้านการเมือง การทูต ธุรกิจ กีฬา วัฒนธรรม การวิจัยและด้านอื่นๆ
– สนับสนุนให้ธุรกิจส่วนตัวขายสินทรัพย์และสกุลเงินของรัสเซีย – กำหนดระเบียบการขอวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตรัสเซีย บล็อกวีซ่าใหม่และใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ และเพิกถอนวีซ่าที่มีอยู่สำหรับเจ้าหน้าที่รัสเซียและครอบครัว
– ยูเครนได้ยื่นอุทธรณ์อย่างเป็นทางการต่อกลุ่มประเทศ G7 เกี่ยวกับสถานะสมาชิกของรัสเซียและเบลารุสในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และองค์กรธนาคารโลกทั้งหมด สงครามที่เปิดตัวโดยประธานาธิบดีรัสเซียจะต้องหยุดลง ไม่ได้อยู่ในความสนใจของพลเมืองรัสเซียและเบลารุส

เรารู้สึกซาบซึ้งต่อชุมชนชาวยูเครนในวงกว้างที่เข้าร่วมกับยูเครนในการมอบความจริงเกี่ยวกับสงครามของรัสเซียในยุโรป การประท้วงต่อต้านการรุกรานของรัสเซียที่จัดขึ้นโดยพลเมืองของหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างมากต่อยูเครนในการป้องกันประเทศรัสเซีย
เราเรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศทั้งหมดเรียกร้องให้ประธานาธิบดีรัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครนทันที ที่อยู่ต้องเป็นอัตนัยและมุ่งตรงไปยังรัฐผู้รุกราน – รัสเซีย

การยุติสงครามซึ่งก่อโดยรัสเซีย ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของยูเครน เราต้องการหยุดยิงและระเบียงเพื่อมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนสำหรับพลเรือน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มเติม

การเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียจัดขึ้นหลายรอบ มีการจัดตั้งคณะทำงาน หยุดยิงและถอนทหารรัสเซีย ด้านข้างกำลังทำงานบนเอกสารร่วมกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีคำขาดใด ๆ จะได้รับการยอมรับจากยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับบูรณภาพแห่งดินแดน

ลำดับความสำคัญในการเจรจาสำหรับประธานาธิบดีแห่งยูเครน โวโลโดมีร์ เซเลนสกี้ นั้นชัดเจนอย่างยิ่ง: การสิ้นสุดของสงคราม, การรับประกันความปลอดภัย, อำนาจอธิปไตย, การฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดน, การค้ำประกันที่แท้จริงสำหรับประเทศของเรา, การคุ้มครองที่แท้จริงสำหรับประเทศของเรา

เราต้องการการรับประกันความปลอดภัยระยะยาวที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ การค้ำประกันดังกล่าวสามารถให้ได้โดยประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน คล้ายกับกลไกที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ

การพูดกับรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565 ประธานาธิบดีแห่งยูเครน โวโลโดมีร์ เซเลนสกี้ เสนอให้จัดตั้งสมาคมขึ้นทันที – U-24 สหภาพเพื่อสันติภาพ – สหภาพของรัฐที่รับผิดชอบด้วยความเข้มแข็งและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเพื่อหยุดความขัดแย้ง เป้าหมายของความคิดริเริ่มคือการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมงด้วยการสนับสนุนทางทหาร ด้านมนุษยธรรม การเมือง และการเงินเพื่อบรรลุสันติภาพ สมาคมนี้สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตด้านมนุษยธรรมหรือโรคระบาด

พันธมิตรใหม่ที่จะทำให้แน่ใจว่าผู้รุกรานแต่ละคนได้รับการตอบโต้ที่ประสานกันจากโลก

สงครามที่นำโดยผู้นำรัสเซียต้องหยุดลง ไม่ใช่ยูเครนที่เริ่มต้น แต่เราต้องหยุดมัน

ต่อมา ในช่วงตอบคำถามสื่อ อุปทูตยูเครนได้ตอบคำถามถึงถ้อยแถลงจากทูตรัสเซียประจำประเทศไทยไม่กี่วันก่อนว่า ทหารรัสเซียยิงใส่พลเมือง บังคับพวกเขาให้ร่วมมือ ทหารรัสเซียขอให้ชาวยูเครนยอมจำนน แต่ชาวยูเครนไม่ยอม นี่คือสงครามเต็มรูปแบบที่รัสเซียทำต่อยูเครน สงครามนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยชาวรัสเซีย แต่เป็นสงครามที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วลาดิเมียร์ ปูติน

ระหว่างสถานการณ์ยูเครน แม้รัสเซียจะยืนคำขาดโดยเฉพาะข้อเสนอความเป็นกลาง แต่ผมย้ำชัดว่าเราจะไม่ยอมรับการยื่นคำขาดของรัสเซียและเราจะสู้จนชนะในที่สุด

เมื่อถามถึงทหารอาสาสมัครจากนานาชาติเพื่อร่วมรบกับยูเครนในการต่อต้านรัสเซียและมีข่าวคนไทยเข้าสมัครเป็นอาสาสมัครด้วยนั้น อุปทูตเผยว่า พบไม่มีพลเมืองไทยอาสาสมัครไปยังยูเครนในฐานะทหารในยูเครน

ส่วนคำถามเรื่องเข้าร่วมนาโต้ของยูเครน ซึ่งมีความเห็นจากชาวไทยที่ติดตามสถานการณ์โดยเฉพาะชาวไทยบางกลุ่มออกมาตำหนิการตัดสินใจของยูเครนในการร่วมนาโต้เป็นสาเหตุสำคัญนำไปสู่ความสูญเสียจากการทำสงครามของยูเครนว่า เราพยายามบรรลุเป้าหมายนี้ และเรายังคงดำเนินความพยายามนี้ต่อไป แต่ถ้าเราได้เห็นข้อเสนอหรือทางเลือกในการยุติสงคราม ยุติการเข่นฆ่าประชาชน นั้นเป็นสิ่งที่รับได้สำหรับยูเครน และเรายังพยายามต่อไปเพื่อหยุดยั้งสงคราม นี่เป็นเป้าหมายสูงสุด

เมื่อถามถึงสถานการณ์ชาวยูเครนที่อยู่ในไทยตอนนี้และต้องการความช่วยเหลือนั้น อุปทูตกล่าวว่า เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย มีชาวยูเครนกว่า 3,000 คนอยู่ในไทยในตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านได้ ไม่มีเที่ยวบิน เราพยายามให้ความช่วยเหลือต่างๆ ก่อนอื่น รัฐบาลยูเครนได้ทำเว็บไซต์ในการลงทะเบียนให้ผู้สนใจให้ที่พักพิงกับชาวยูเครนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย เราได้ทำเว็บไซต์แบบนี้ด้วยซึ่งชาวยูเครนรู้สึกยินดีที่จะอยู่ในไทยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองของไทยก็ยินดีขยายเวลาการพำนักอยู่ในไทยต่อ จริงๆแล้วเราทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย ให้ชาวยูเครนอยู่ในไทยได้อีกซักพัก แต่จากเท่าที่ทราบล่าสุด ชาวยูเครนส่วนใหญ่ยังไม่ติดต่อมาขอความช่วยเหลือพื้นฐาน ยกเว้นบางส่วน

จากนั้น สถานทูตได้เปิดช่องวิดีโอลิงก์แชทให้ได้สนทนากับ เอฟเกน,ชาวเมืองซิโตมีที่มาบรรยายสภาพความเสียหายของเมืองและสถานการณ์ล่าสุดว่า เสียหายหนักและจุดที่เขาอยู่คือโรงเรียนซึ่งถูกโจมตีทางอากาศจนย่อยยับ หนังสือกระจัดกระจายไปทั่ว

นอกจากนี้ ทูตยังได้บรรยายความรู้สึกตัวเองต่อสถานการณ์ว่าเจ็บปวดและเป็นห่วงครอบครัวตัวเองที่ยังคงอยู่ในยูเครน เขาสวดภาวนาต่อพระเจ้าตลอด พวกเขายังอยู่ในคียีฟ เขาคุยกับครอบครัวทุกวัน แม้จะแย่แต่ยังปลอดภัย

ทั้งนี้ อุปทูตยังได้กล่าวถึงเพื่อนร่วมวงการทูตฝั่งรัสเซียว่า ถึงทุกคน ขอให้ช่วยหยุดสงครามนี้ พวกเขาเข้าใจว่า สงครามนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อชาวรัสเซีย แต่เกิดขึ้นโดยปูติน นี่ไม่ใช่สงครามของชาวรัสเซีย

“พวกเขามาขอให้ชาวยูเครนจงเป็นมิตร แต่พวกเขากลับฆ่าเรา เราจะสามารถเป็นเพื่อนได้ยังไง หยุดฆ่าเราเสีย แล้วเราจะเป็นเพื่อนคุณ” อุปทูต กล่าวทิ้งท้าย