“ประวัฒน์-ไทยสร้างไทย” ชี้เกษตรกรเดือดร้อนไปทั่วทุ่ง หลังปุ๋ยเคมีขึ้นราคากว่า 100% จี้รัฐบาลออกมาตรการลดต้นทุนการเกษตรแบบครบวงจรเป็นวาระเร่งด่วน

วันที่ 17 มีนาคม 2565 นายประวัฒน์ อุตโมช รองประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทยในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตรที่ขึ้นราคากว่า 100 เปอร์เซ็นต์ จนสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรไปทั่วประเทศว่าหลายฝ่ายได้ออกมาส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา ทั้งการใช้มาตรการตรึงราคาหรือให้เงินสนับสนุน ซึ่งแม้รัฐบาลจะเตรียมนำงบประมาณ 2.6 พันล้านบาทมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยพืชสดหรือทำโครงการพัฒนาเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธี แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้

จากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกรได้รับเสียงสะท้อนว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัว ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน และค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ซ้ำเติมค่าครองชีพในปัจจุบันที่สินค้าราคาแพงอย่างครบวงจร โดยล่าสุดอาหารประเภทกระป๋องเตรียมปรับขึ้นราคา 15% เมื่อรายรับไม่พอรายจ่าย ประชาชนคนตัวเล็กหรือเกษตรกรชาวนาชาวไร่จะอยู่รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจของแพงได้อย่างไร

วันนี้การแก้ไขปัญหา “ของแพงทั้งแผ่นดิน”ของรัฐบาล จะใช้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งไม่ได้ แต่ต้องทำให้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ที่จะต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในเบื้องต้นรัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ตั้งแต่น้ำมันเพื่อการเกษตรที่มีทั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน รวมถึงค่าปุ๋ยที่ควรจะต้องมีราคามาตรฐานหรือราคากลางไว้หรือไม่ โดยกระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งสำรวจตรวจสอบการขยับขึ้นราคาปุ๋ยกว่าเท่าตัวว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เป็นการฉวยโอกาสจากกลุ่มนายทุนค้าปุ๋ยในการกักตุนสินค้าหรือไม่

“วันนี้ต้องยอมรับว่าเกือบ 8 ปี ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาอะไรจากรัฐบาลได้เลย โดยเฉพาะภาคการเกษตรของไทยที่บอบช้ำไปมาก เนื่องจากผู้นำไร้วิสัยทัศน์ในเรื่องเหล่านี้ ล่าสุดการอนุมัติงบ 2.6 พันบาทเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ก็ยังเป็นเพียงแผนนามธรรม เกษตรกรยังไม่เห็นภาพเลยว่า พวกเขาจะซื้อปุ๋ยถูกลงได้อย่างไร ดังนั้นรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังกับการช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด ควรวางเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นเอาไว้ก่อน ความเป็นอยู่ของเกษตรกรสำคัญที่สุด เพราะพวกเขาไม่ได้กระทบแค่เรื่องปุ๋ยแพงเท่านั้น แต่ยังมีอาหารประจำวันอย่างปลากระป๋องหรือไข่ที่เตรียมจะขึ้นราคาอีกเป็นแผง”นายประวัฒน์กล่าว