เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ฉุดราคาน้ำมัน-ทองคำร่วง

ตามคาด! ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ด้นดาวโจนส์บวกกว่า 500 จุด คาดทั้งปีปรับขึ้นอีก 6 ครั้ง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกับทองคำปรับลดลง หลังมีความคืบหน้าสัญญาณเจรจาสันติภาพไปในทางที่ดีขึ้น 

วันที่ 17 มีนาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง ๆละ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งหมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้งหลังจากนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% ในช่วงปลายปี 2565นี้

รายงานระบุว่า เฟดยังส่งสัญญาณปรับลดขนาดงบดุลในการประชุมในอนาคต โดยงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) มูลค่ารวมเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์

แถลงการณ์ของเฟดยังระบุด้วยว่า สงครามในยูเครนและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีแนวโน้มจะเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจด้วย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นรับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,063.10 จุด เพิ่มขึ้น 518.76 จุด หรือ +1.55%, ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,357.86 จุด เพิ่มขึ้น 95.41 จุด หรือ + 2.24% และดัชนี แนสแดค ปิดที่ 13,436.55 จุด เพิ่มขึ้น 487.93 จุด หรือ +3.77%

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20.50 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 1,909.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทางด้านหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังทิศทางการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มดีขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกมากล่าวว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับยูเครนได้แล้ว ขณะที่โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน กล่าวว่าการเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศดูมีความเป็นไปได้มากขึ้น

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ระบุว่า “ยาขนานแรก” จากเฟด เมื่อคืนนี้!!!

1. ขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ 0.25%
2. ปลายปีนี้ดอกเบี้ยจะไปอยู่ที่ 1.75-2.00% คือ ขึ้นอีก 6 ครั้ง
3. ปี 2023 ขึ้นอีก 3-4 ครั้ง เป็น 2.5-3.0%
4. ปี 2024 คงดอกเบี้ย (กรรมการบางคนอยากที่จะลดดอกเบี้ยเล็กน้อย)
5. เริ่มดูดสภาพคล่องคืน (QT) ในการประชุมครั้งต่อไป 3-4 พฤษภาคม

จะเห็นจาก FOMC Dot Plot ที่เทียบกับผลการประชุมเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ว่า นอกจากกรรมการเฟดอยากขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น แรงขึ้นแล้ว ยังจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายระดับปกติในระยะยาวไปเล็กน้อย เป็นเวลาประมาณ 1 ปี เพื่อให้เงินเฟ้อลดลงมาที่เป้าหมาย

สรุปว่า การจ่ายยารอบนี้ของเฟด “แรงกว่าที่ตลาดคิดไว้เล็กน้อยในช่วงท้าย – ทะลุ 2.5% ไป 1 ปี” แล้วรอดูเหตุการณ์ต่อไป จึงค่อยตัดสินใจเรื่องการจ่ายยาอีกรอบ หลังมีความชัดเจนเรื่องสงคราม และเรื่องอื่นๆ

“ตอนที่ Dot Plot ออกมา Dow Jones ตกไป 400 จุด ก่อนปรับตัวดีขึ้นหลังจากได้รับฟังคำอธิบายจากท่านประธานเฟด 30 นาทีให้หลัง” ดร.กอบศักดิ์ระบุ