รัสเซียประกาศห้ามส่งออกวัตถุดิบบางชนิด โต้กลับสหรัฐฯแบนนำเข้าน้ำมัน

จับตาสินค้าราคาพุ่ง! รัสเซียโต้กลับ ประกาศห้ามส่งออกวัตถุดิบบางชนิด

 

วันที่ 9 มีนาคม 2565 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งห้ามการส่งออกสินค้าและวัตถุดิบบางชนิด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาความมั่นคงของสหพันธรัฐรัสเซีย และเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินการที่ต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีของรัสเซียจะทำหน้าที่ตัดสินใจในการกำหนดรายชื่อสินค้าที่รัสเซียจะห้ามการส่งออก รวมถึงประเทศที่จะมีการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า โดยคำสั่งห้ามการส่งออกนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงปลายปี 2565

การลงนามในคำสั่งดังกล่าวของปูตินมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สหรัฐประกาศห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย และอังกฤษประกาศจะเลิกพึ่งพาน้ำมันรัสเซียภายในสินปีนี้

อย่างไรก็ดี มาตรการที่รัสเซียเตรียมจะดำเนินการมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะนอกจากจะเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกแล้ว รัสเซียยังเป็นประเทศหลักที่ส่งออกธัญพืชและโลหะไปทั่วโลกอีกด้วย ทั้งยังส่งออกแพลเลเดียม ซึ่งเป็นโลหะหายากรายใหญ่ของโลก คิดเป็นสัดส่วนถึง 40%

น้ำมันพุ่ง 4% แตะ 128 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทองทะลุ 2,000 ต่อออนซ์ หุ้นร่วง คริปโทปรับเพิ่ม

หลังจากที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทันที แม้ว่าจะยังไม่สูงถึงสถิติในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งแตะ 139.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก็ตาม

ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือ ปรับเพิ่มขึ้น 4.7% มาซื้อขายกันที่ 128.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัส ปรับเพิ่มขึ้น 4.1% มาอยู่ที่ 124.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐพากันร่วงลงทุกตลาดแต่ไม่รุนแรงเท่าต้นสัปดาห์ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ปรับลดลง 0.6% มาปิดที่ 32,632.64 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 4,170.7 จุด และดัชนีแนสแดกลดลง 0.3% ปิดที่ 12,795.55 จุด

ด้านตลาดหลักทรัยพ์ในยุโรปยังผัดผวน ดัชนี EURO STOXX 50 ปิดลดลง 0.2 % ที่ 3,505.29 จุด ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ ปรับเพิ่ม 0.1% ปิดที่ 6,964.11 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนี ทรงตัวมาปิดที่ 12,831.51 จุด และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.3% ปิดที่ 5,962.96 จุด

ส่วนราคาทองคำก็พุ่งทะลุ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปเรียบร้อย โดยล่าสุดซื้อขายกันที่ 2,069.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563

สกุลเงินดิจิทัลก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยบิทคอยท์ ซื้อขายกันที่ 39,461.5 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 2.19% อย่างไรก็ดีหากดูจากความเปลี่ยนแปลงในช่วง 7 วันยังคงลดลง 10.60% ขณะที่อีเธอเรียมซื้อขายที่ 2,625.96 ดอลลาร์ ปรับเพิ่ม 3.09% แต่ราคาเฉลี่ย 7 วันยังลดลง 10.36%