แฉรัสเซียใช้ “ระเบิดสุญญากาศ-ระเบิดลูกปราย” คาร์คีฟโดนถล่มซ้ำ-ไฟคลอกดับคารถยกครัว

วันที่ 1 มี.ค. เอเอฟพี บีบีซี และการ์เดียนรายงานสถานการณ์ความไม่สงบใน ประเทศยูเครน ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 6 หลังจากกองกำลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางการทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ว่า ยังมีปะทะต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วยูเครน

ทั้งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ในการหารืออีกครั้งว่าพร้อมจะยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยูเครน

และเกิดขึ้นหลังจากคณะผู้แทนรัฐบาลยูเครนนำโดยนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครน เพิ่งหารือกับคณะผู้แทนรัฐบาลรัสเซียนำโดยนายวลาดิมีร์ เมดินสกี ผู้ช่วยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนายลีโอนิด สลัตสกี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาดูมา ที่เมืองกอเมล ประเทศเบลารุส ติดชายแดนยูเครนทางตอนเหนือ เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 28 ก.พ.

แฉรัสเซียใช้ “ระเบิดสุญญากาศ”

An ambulance is seen through the damaged window of a vehicle hit by bullets, as Russia’s invasion of Ukraine continues, in Kyiv, Ukraine February 28, 2022. Jedrzej Nowicki/Agencja Wyborcza.pl via REUTERS

ทางการยูเครนแถลงว่ากองกำลังรัสเซียยิงจรวดโจมตีเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และอย่างน้อย 37 คนได้รับบาดเจ็บ

นายอิฮอร์ เทเรกฮอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คีฟ ระบุผ่านข้อความทางแอพพลิเคชั่นเทเลแกรมว่าเป็นอีกวันที่ยากลำบากมาก การโจมตีนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นแค่สงคราม แต่นี่คือความพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน

ขีปนาวุธหลายลูกถล่มอาคารที่อยู่อาศัยและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในจำนวนนี้มี 4 คนเสียชีวิตหลังเพิ่งออกจากหลุมหลบภัยเพื่อหาน้ำดื่ม และอีกครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อแม่และลูกซึ่งยังเป็นเด็กอีก 3 คน ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาที่ในรถยนต์

ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์บนโลกออนไลน์เผยให้เห็นจรวดแกรดหลายลูกพุ่งใส่พื้นที่ชุมชนเมืองคาร์คีฟ

อีกคลิปเป็นเหตุการณ์หลังการโจมตีเผยให้เห็นสภาพถูกทำลายล้างของถนนโคลชคิฟสกา ใจกลางเมืองคาร์คีฟ จรวดแกรดลูกหนึ่งตกลงด้านนอกอาคารหลังหนึ่ง ทำให้หญิงเคราะห์ร้ายซึ่งกำลังเดินทางไปซื้อของในช่วงผ่อนคลายมาตรการเคอร์ฟิว ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนขาขาด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แฉรัสเซียใช้ “ระเบิดสุญญากาศ”
FILE PHOTO: Major General Borys Kremenetskyi, Defense Attache, Embassy of Ukraine, stands at the side of Ukrainian Ambassador to the U.S. Oksana Markarova as she speaks to reporters about Russia’s attack on Ukraine, at the Ukraine Embassy in Washington, U.S. REUTERS/Kevin Lamarque/File Photo

ด้านบริษัท มาซาร์ เทคโนโลยีส์ เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมในพื้นที่สมรภูมิยูเครนและพบว่ากองกำลังรัสเซียตั้งทัพเป็นระยะทางยาวเกือบ 65 กิโลเมตร ใกล้เมืองอีวานคีฟ ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ ทำให้สันนิษฐานได้ว่ากองกำลังรัสเซียมีแผนเตรียมบุกกรุงเคียฟในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ยังมีภาพกองกำลังรัสเซียตั้งทัพใกล้สนามบินฮอสโตเมล ชานกรุงเคียฟ สถานที่จอดเครื่องบินอันโตนอฟ เอเอ็น-225 มรียา อากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งถูกกองกำลังรัสเซียทำลายด้วยขีปนาวุธหรือการโจมตีทางอากาศ และอีกภาพจากมาซาร์ เทคโนโลยีส์ เป็นภาพความเสียหายมีรถหุ้มเกราะถูกยิงและสะพานถูกถล่มยับใกล้เมืองเออร์ปินและเขตสโตยันกา

ด้านนางออกซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกา ชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐว่ากองกำลังรัสเซียใช้ “ระเบิดสุญญากาศ” ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในอนุสัญญาเจนีวา ระเบิดสุญญากาศเป็นอาวุธเทอร์โมบาริก โดยข้างในอัดแน่นไปด้วยระเบิดแรงดันสูงที่จะดูดออกซิเจนจากอากาศโดยรอบ ส่งผลให้เกิดแรงอัดอากาศและมวลคลื่นที่มีความรุนแรงมหาศาล

องค์การฮิวแมนไรตส์วอตช์ระบุว่า รัสเซียเคยใช้อาวุธเทอร์โมบาริกมาแล้วในสาธารณรัฐเชชเนียของรัสเซีย และเมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าพบว่าเห็นเครื่องยิงจรวดเทอร์โมบาริกใกล้กับเมืองเบลโกรอด ในแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย

ขณะที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลและฮิวแมนไรตส์ วอตช์ เปิดเผยว่า มีการพบกองทัพรัสเซียใช้ระเบิดลูกปรายอย่างกว้างขวางในการโจมตี โดยแอมเนสตี้ฯ กล่าวว่า กองทัพรัสเซียใช้โจมตีโรงเรียนอนุบาลทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งถูกใช้เป็นที่หลบภัยของพลเรือน

คาร์คีฟโดนถล่มซ้ำ-สลดไฟคลอกดับคารถยกครัว
The attack on Kharkiv is believed to have left nine people dead, including three children. Above: The aftermath of the strike.
แฉรัสเซียใช้ “ระเบิดสุญญากาศ”
DailyMail
คาร์คีฟโดนถล่มซ้ำ-สลดไฟคลอกดับคารถยกครัว
สำหรับระเบิดแบบเทอร์โมบาริก นอกจากรัสเซียที่มีอาวุธแบบนี้ครอบครองแล้ว สหรัฐฯยังครอบครองอาวุธแบบนี้ในชื่อ “โมแอป” (MOAB-Mother of All Bomb) แต่รัสเซียได้พัฒนาให้มีอานุภาพการทำลายล้างที่สูงกว่าของสหรัฐฯ