ปธน.ยูเครนร้องโลก ปลดรัสเซียโหวตในยูเอ็นเอสซี จ่อยื่นศาลโลกสอบเข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ปธน.ยูเครนร้องเรียนโลก ยกเลิกอำนาจรัสเซียโหวตในยูเอ็นเอสอี จ่อยื่นศาลโลกสอบเข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครน ได้เรียกร้องให้โลกยกเลิกอำนาจการลงคะแนนเสียงของรัสเซียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และกล่าวว่าการกระทำของรัสเซียมุ่งเป้าไปที่ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

เซเลนสกี้แถลงผ่านวิดีโอสั้นว่า “นี่เป็นเรื่องอันน่าสยดสยอง พวกเขาจะวางระเบิดเมืองยูเครนของเราให้หนักกว่านี้ พวกเขาจะฆ่าลูกหลานของเราให้มากขึ้นกว่านี้ นี่คือความชั่วร้ายที่มาถึงดินแดนของเราและจะต้องถูกทำลาย การก่ออาชญากรรมของรัสเซียต่อยูเครนกำลังส่งสัญญาณให้เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

นอกจากนี้ เซเลนสกี้ ได้ทวิตข้อความว่าจะยื่นร้องเรียนต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อพิสูจนว่าการกระทำอันก้าวร้าวของรัสเซียในการรุกราน ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เราขอให้มีการตัดสินใจเร่งด่วนที่สั่งให้รัสเซียยุติกิจกรรมทางทหารในขณะนี้ และคาดว่าการพิจารณาคดีจะเริ่มในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ นายฟิลิปโป กรานดิ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ระบุว่า เวลานี้มีประชาชนที่ต้องหนีภัยความรุนแรงจากการบุกโจมตีของรัสเซียในยูเครนแล้วจำนวนมากกว่า 150,000 ราย

โดยนายกรานดิ ระบุว่า มีผู้อพยพชาวยูเครนมากกว่า 150,000 คนที่เวลานี้หนีข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งหนีข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์ และอีกจำนวนมากหนีไปยังฮังการี มอลโดวา โรมาเนีย และอีกหลายประเทศ นอกจากนี้นายกรานดิ ระบุด้วยว่า การอพยพออกจากบ้านเรือนในยูเครนกำลังเพื่อจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์การสู้รบทำให้ยากต่อการคาดการณ์จำนวนผู้ได้รับผลกระทบรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือ

สำหรับสถานการณ์การต่อสู้ยังคงดุเดือด ทางการรัสเซียสั่งให้กองกำลังทหารบุกยูเครน “จากทุกทิศทุกทาง” พร้อมกับประกาศกร้าวว่ายิงขีปนาวุธร่อนใส่เป้าหมายทางการทหาร และจะเดินหน้าโจมตียูเครนต่อไป หลังจากกล่าวหารัฐบาลยูเครนปฏิเสธการเจรจาซึ่งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ให้คำมั่นว่ายูเครนจะไม่มีวันยอมจำนนต่อรัสเซีย

โดยช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ยังมีเสียงไซเรนเตือนการโจมตีดังขึ้นหลายครั้ง และทางการยูเครนเตือนให้ประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากพากันหนีไปอยู่ในหลุมหลบภัยใต้ดิน

พลเรือนยูเครนเซ่นศึกรัสเซียพุ่ง

A view shows a burning oil depot reportedly hit by shelling near the military airbase Vasylkiv in the Kyiv region, Ukraine February 27, 2022. REUTERS/Maksim Levin

ซีเอ็นเอ็นระบุว่าพบเด็กเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 5 ราย รวมถึงเด็กชายวัย 6 ขวบที่ถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่ภาคตะวันตกของกรุงเคียฟ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. ถือเป็นเหยื่ออายุน้อยที่สุดที่เสียชีวิตจากกการก่อสงครามของรัสเซีย

ด้านนายดมิทรี จีวิตสกี ผู้ว่าการแคว้นซูมืย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เปิดเผยว่ามีพลเรือนถูกลูกหลงจากการโจมตีในเมืองโฮเทียร์กาจนเสียชีวิต 6 ราย รวมถึงเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ทั้งยังมีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียยิงถล่มโรงเรียนอนุบาลและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายแห่ง

แม้ทางการรัสเซียยืนกรานปฏิเสธ แต่นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน แถลงตอบโต้ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม และขอเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับรัฐบาลรัสเซียโดยเร็ว