วันที่ 30 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 20.09 น. แต่คะแนนรวมยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การนับคะแนนเสียงของหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ใน 5 แขวงได้แก่ ทุ่งสองห้อง,ตลาดบางเขน,ลาดยาว,เสนานิคมและจันทรเกษม ของเขต 9 หลักสี่-จตุจักร นั้น ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สุรชาติ เทียนทอง ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย สามารถล้างตาคว้าชัยชนะเหนือพรรคแชมป์เก่าปี 2562 อย่างพลังประชารัฐได้สำเร็จ

โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเวลา 20.57 น.หลังการนับคะแนนครบ 100% แล้ว อันดับแรก หมายเลข 3 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย 29,416 คะแนน หมายเลข 6 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล 20,361 คะแนน หมายเลข 2 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคกล้า 20,047 คะแนน หมายเลข 7 นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 7,906 คะแนน หมายเลข 1 นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยภักดี 5,987 คะแนน

นายสุรชาติ ได้แถลงข่าวหลังทราบผลไม่เป็นทางการ แสดงความขอบคุณประชาชนผู้ลงคะแนนเสียง และยังได้แสดงความชื่นชมคุณกรุณพล ที่ลงสนามการเลือกตั้งครั้งแรกและคุณอรรถวิชช์ ที่เริ่มการเมืองพร้อมกันกับเขา

“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ผ่านมา เราแลกด้วยหงาดเหงื่อ ความมุ่งมั่น สองมือสองเท้าและหัวใจที่ไม่เคยย่อท้อ และสุดท้าย อยากเรียนทุกท่านว่า ผมมุ่งมั่นตั้งใจ ต่อเป็น 1 วัน 1 เดือน 1 ปีที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่ให้สมกับที่ทุกคนไว้วางใจ รับใช้ทุกคนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงอย่างสุดความสามารถ ทั้งในและนอกสภา” สุรชาติ กล่าว

มาดามหลี ยอมรับความพ่ายแพ้

เมื่อเวลา 19.00 น. ที่วอร์รูมเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.)​ วิภาวดี​ พาเลซ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ประธานภาค ส.ส..กทม.พรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงข่าวยอมรับความพ่ายแพ้หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ว่า ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกคะแนนที่ไว้ใจเลือกนางสรัลรัศมิ์ เรายอมรับผลการตัดสินใจองประชาชน

ส่วนต้องทบทวนจุดบอดหรือไม่ ก็ต้องทบทวน แต่ถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ในทุกมิติ ตามแบบแผนที่ควรจะทำเราได้ทำหมดแล้ว เมื่อถามว่าคิดว่าสาเหตุการแพ้ไม่เห็นฝุ่นครั้งนี้เกิดจากอะไร นายสิระ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน คิดว่าเราพร้อมที่สุดแล้ว แต่ผลออกมาก็ต้องยอมรับ เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาส่งผลต่อพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ก็ต้องหาหาข้อสรุปกัน ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้โทรศัพท์มาพูดคุยโดยระบุว่า ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่

เมื่อถามว่าสะท้อนว่าพล.อ.ประยุทธ์ขายไม่ได้แล้วหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า การตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ก็ต้องหาสาเหตุก่อน ส่วนการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะลงสมัครหรือไม่นั้น มันไม่เกิดเร็วๆ นี้หรอก จากนี้ก็พักผ่อนและหาจุดบกพร่อง ยืนยันว่าไม่ท้อ ไม่มีอะไรที่จะเสียใจ ทำดีที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่านายสิระและนางสรัลรัศมิ์จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า อนาคตยังไม่ตัดสินใจอะไรเลย เราก็อยู่สบายดำรงชีวิตปกติได้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นผู้แทนฯ จะทำให้ชีวิตเราแย่ลง ชีวิตเราดีอยู่แล้ว มีความสุข อยู่ตรงไหนก็มีความสุข

ด้านนางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ลงให้ มีความสุขที่ได้ดูแลประชาชน ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจในสิ่งที่ทุ่มเททำลงไป ทั้งนี้ต้องทบทวนว่าประชาชนต้องการอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามยังไม่เห็นผลคะแนนที่แน่ชัด จึงยังตอบไม่ได้ ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง

อย่างไรขอแสดงความดีใจกับผู้ชนะ ขอให้ทุ่มเทดูแลประชาชน ขอฝากประชาชนในเขตจตุจักรด้วยเมื่อถามว่านายสิระจะยังทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ต้องคุยกับประธานภาค ส.ส. กทม. วันนี้ยังตอบอะไรไม่ได้

ด้านนายจักรพันธ์ กล่าวต่อว่า ขอบคุณทุกคะแนนเสียงในเขตหลักสี่ จตุจักร ที่มอบให้ และขอแสดงความเสียใจกับผู้สมัคร อย่างไรก็ตามคิดว่าเหตุผลในการเลือกตั้งของคน กทม. ในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าผลการเลือกตั้งในสนามเขต 9 ต้องนำไปถอดบทเรียน

แต่เชื่อมั่นคน กทม.ยังสนับสนุนพวกเราซึ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็ต้องพูดคุยกัน ส่วนจะมีผลต่อการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าหลักคิดการตัดสินใจของคน กทม.ใช้เหตุผลไม่เหมือนกัน ยังเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ความตั้งใจในการทำงานให้ประชาชนต่อไป