วันที่ 9 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า นายคาริม มัสซีมอฟ อดีตหัวหน้าคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยงานข่าวกรองของคาซัคสถาน ถูกจับกุมในฐานะผู้ต้องสงสัยในข้อหากกบฏ หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศตอบโต้นโยบายขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) รับปีใหม่ และสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลและอดีตประธานาธิบดี นูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ซึ่งปกครองประเทศมาสามทศวรรษ และยังเป็นที่คาดว่าจะคงอิทธิพลสำคัญๆ

คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติประกาศข่าวดังกล่าว โดยนายมัสซีมอฟดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานแห่งนี้ ก่อนเพิ่งถูกปลดเมื่อสัปดาห์นี้ แต่ทางการไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการถูกจับกุม จึงเกิดกระแสข่าวลือว่าเป็นการแย่งชิงอำนาจในรัฐบาลคาซัคสถาน

นายมัสซีมอฟมีบทบาทระดับสูงแห่งหน่วยงานข่าวกรอง ซึ่งเติบโตมาจากกองกำลังความมั่นคงของสหภาพโซเวียต (เคจีบี) เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีนาซาร์บาเยฟ และเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย

ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์ในคาซัคสถาน คอมเมียร์ซันต์ รายงานว่า กระทรวงกิจการภายในแจ้งตัวเลขผู้ถูกจับกุมเพิ่มเป็น 5,135 คน และเริ่มการสอบสวนก่อนการพิจารณาคดี 125 ครั้ง ในจำนวนนี้รวมถึงข้อหาฆาตกรรม การใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ การปล้นทรัพย์ การทำลายทรัพย์สิน และการลักทรัพย์ ก่อนหน้านี้ ระบุตัวเลข “อาชญากรติดอาวุธ” 26 ราย และเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 18 ราย เสียชีวิตในการปะทะ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีกาซิม-โจมาร์ต โตคาเยฟ ประกาศทางโทรทัศน์ว่า กลับมาควบคุมสถานการณ์ในนครอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีผู้ประท้วงบุกเผาที่ทำการรัฐบาลสำคัญๆ แต่ “ผู้ก่อการร้าย” ยังโจมตีในบางที่ และกล่าวหาโดยแต่ไม่มีหลักฐานว่า “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากต่างชาติ เป็นต้นเหตุของความไม่สงบ นอกจากนี้ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ยิงสังหารโดยไม่ต้องเตือน