ครย.จ่อยกระดับ สู้ทุกทาง ซัดรบ.ลุแก่อำนาจ ‘สลายม็อบจะนะ’ ชวนพกหม้อส่งเสียง 12 ธันวา

ครย.จ่อยกระดับ สู้ทุกทาง ซัด ลุแก่อำนาจ ‘สลายม็อบจะนะ’ ชวนพกหม้อส่งเสียง 12 ธันวา ขอ ตร.-สธ. ช่วยอำนวย

วันที่ 7 ธันวาคม ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ สืบเนื่อง คณะราษฎรยกเลิก 112 ” (ครย.112) ร่วมแถลงข่าวคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมประกาศเดินหน้ารวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอยกเลิกกฎหมายมาตรา 112, เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมือง และยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุมทุกรูปแบบ ในวันที่ 8 9 10 ธันวาคมนี้ ก่อนจะการชุมนุมใหญ่ วันที่ 12 ธันวาคม ที่แยกราชประสงค์นั้น

ในตอนหนึ่ง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การชุมนุมวันที่ 12 ธันวาคมนี้ กลุ่มราษดรัม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนรวมตัวเวลา 16.00 น. โดยให้นำเครื่องเสียงจากที่บ้านมาด้วย

“ไม่ว่าจะเป็น กลอง ชาม โหวต แตร นกหวีดด้วยก็ได้ โดยกลุ่มราษดรัม จะทำกิจกรรมเปิดงานเพื่อส่งเสียง ขอเชิญทุกภาคส่วนนำเครื่องมาเครื่องมือที่ก่อให้เกิดเสียงดัง กะลอ กะลา กะละมัง ไห หม้อ ได้หมด มาร่วมกันเวลา 16.00 น.” นายสมยศกล่าว

เมื่อถามถึงการยกระดับการชุมนุม ?

นายสมยศเปิดเผยว่า เราจะยกระดับในเชิงรุกมากขึ้น ในแง่ของการ ‘ ล่าลายมือชื่อ ยกเลิก ม.112

ด้าน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า เราจะเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนเครือข่าย กลุ่ม องค์กรต่างๆ

“ที่ผ่านมา กว่า 200,000 ท่าน ก็ได้ลงชื่อผ่านทางออนไลน์มาแล้ว เชื่อว่าคนกลุ่มนี้พร้อมอยู่แล้ว เข้าใจประเด็นอยู่แล้ว จึงลงชื่อได้ทันที แต่ยังมีพี่น้องประชาชนอีกมากที่ไม่ได้ทราบช่องทางนี้ หรือไม่ได้เข้าใจว่าปัญหาคืออะไร จะมีการจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดอีกหลายครั้ง ทั้งที่ได้แจ้ง และไม่ได้แจ้งต่อสาธารณะ” นายยิ่งชีพกล่าว

เมื่อถามถึงเป้าหมายของ 1 ล้านรายชื่อ ว่าได้กำหนดกรอบระยะเวลาและการยื่นต่อรัฐสภาหรือไม่ ?

นายยิ่งชีพ ระบุว่า ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา และไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็น 1 ล้านรายด้วย อาจจะเป็นหลายล้านก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าพี่น้องประชาชนและสภา จะตอบรับข้อเสนอนี้อย่างไร ถ้าสภาพร้อมตอบรับข้อเสนอนี้ ก็สามารถยื่นได้ทันที

นอกจากนี้ ครย. ยังระบุด้วยว่า แผนการชุมนุมของทาง ครย. มีเท่านี้ ส่วนกลุ่มอื่นจะจัดการชุมนุมที่ไหนอย่างไรนั้น ยังไม่ทราบ แต่คาดว่าจะมีกลุ่มย่อยออกมาเคลื่อนไหวจำนวนมาก โดยปีหน้าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแรงงานครั้งใหญ่ คู่ขนานระหว่าง ‘ความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ’ และ ’ความเดือดร้อนทางการเมือง’

สำหรับการยื่นเรื่องต่อ สำนักงานอัยการสูงสุด วันที่ 9 ธันวาคม เวลา 11.00 น. นั้น

นายสมยศระบุว่า เป็นการไปยื่นหนังสือเพื่อ คัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  2 เรื่องใหญ่ คือ เสรีภาพ และอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎร ซึ่งจะนำโดย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่

จากนั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังจากยื่นต่ออัยการสูงสุดแล้ว รออีก 15 วัน เรื่องจึงจะไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการยื่นเรื่องตามขั้นตอนต่อไป รวมถึงเรื่องที่จะฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ กรณีกระบวนการพิจารณาไต่สวน ในความเห็นนักกฎหมาย ผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงจะไปใช้สิทธิเพื่อเอาผิดกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะนี้

“เป็นการยกระดับการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง นอกจากการเดินสาย ซึ่งองค์กรประชาชน สมาชิก เครือข่าย หากจะจัดกิจกรรมก็สามารถประสานงานมาได้ที่ส่วนกลาง ทีมงานจะลงไปทำงานในพื้นที่

ส่วนที่จะยกระดับคือการเคลื่อนไหว ต่อต้าน ม.112 จะยกระดับมาตรการเป็นสากล ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพื่อให้ประชาชนทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยที่เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง ได้มีส่วนร่วมลงลายมือชื่อ และมีส่วนร่วมเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน นำมาสู่การยกเลิกมาตรา 112 ต่อไป กล่าวคือ เราจะยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุมไปทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งไทย และในต่างประเทศ

วันที่ 10 ธันวาคม เวลา 11.00 น. หน้าสำนักงานสหประชาชาติ สะพานมัฆวานรังสรรค์ จะมีการยื่นฟ้อง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้คำมั่นต่อธนชาติว่า จะเคารพสิทธิมนุษยชน และจะปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่กลับให้ลูกน้องคนสนิท ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นขับไล่แอมเนสตี้ หรือองค์กรนิรโทษกรรมสากล ออกจากประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้เราจะนำไปฟ้องต่อชุมชนต่างประเทศ หรือ ‘ประชาคมโลก’ เพื่อชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้คำมั่นสัญญาใดใดไว้ต่อนานาชาตินั้น ในทางปฏิบัติธรรม ตรงกันข้าม กลับละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินคดีต่อแกนนำคณะราษฎร ซึ่งขณะนี้มีถึง 1,684 คนแล้ว มีผู้ถูกดำเนินคดี ม.112 ถึง 166 คดี 162 คน ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติ มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสิทธิมนุษยชน และการยกระดับประชาธิปไตยในประเทศไทยด้วย” นายสมยศระบุ

นายสมยศกล่าวต่อว่า กรณีรายชื่อ ยกเลิก 112 ชี้ให้เห็นถึง ประชากรจำนวนอย่างน้อย 200,000 ชื่อที่กระตือรือร้นทางการเมือง ได้แสดงเจตจำนงแล้ว ก็อยากจะเชิญพี่น้องประชาชนร่วมลงนามผลักดัน และร่วมชุมนุมในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นการเปิดประชุม คนที่เห็นด้วยกับการยกเลิก 112

 

เมื่อถามว่า จากกรณีสลายการชุมนุมของกลุ่มจะนะ ทาง ครย. กังวลเรื่องการสลายชุมนุมหรือไม่ ?

นายสมยศกล่าวว่า ตนมั่นใจว่า สิ่งที่ดำเนินการเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย อยู่ในสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ในการล่าลายมือชื่อ หรือการแสดงความคิดเห็น จึงมั่นใจว่า หากมีการสลายการชุมนุมจะนำมาสู่ ‘ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้’ จากสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้คำมั่นสัญญาต่อนานาชาติ สหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติน ว่าจะเคารพในสิทธิเสรีภาพของพวกเรา

“เราก็มั่นใจว่า ด้วยการชุมนุมโดยสงบสันติของเรา จะไม่เกิดอันตราย หากอันตรายจะเกิดขึ้นประการใด ก็ขอเรียกร้องให้ ‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ (ตร.) รับผิดชอบ

และขอบอกให้ ‘กระทรวงสาธารณสุข’ มาช่วย ควบคุมการแพร่ระบาด นั่นหมายความว่า พวกเราเตรียมพร้อมสวมหน้ากาก และมีแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างตามมาตรฐานป้องกันโควิด และเชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นไปโดยสงบสันติ จากการที่พวกเราร่วมกันทำงาน จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขมาตรวจด้วย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะมาอำนวยความสะดวก อย่าได้ปิดกั้น กระเหี้ยนกระหือรือ หรือดำเนินการใดใด”

“กรณีจะนะ เราคัดค้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและเหิมเกริม ลุแก่อำนาจ หรือว่า บ้าอำนาจ ซึ่งไม่เป็นผลดีใดใดต่อระบอบประชาธิปไตย ก็จะสนับสนุนการต่อสู้ของชาวจะนะ หวังว่าข้อเรียกร้องของชาวจะนะ จะได้รับการพิจารณา

การสลายการชุมนุม จะทำให้ประเทศไทยตีบตัน และจะนำมาสู่ความโกรธแค้นรุนแรงมากขึ้น จึงอยากจะส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่า ยอมรับให้มีประชาธิปไตย ยอมรับให้มีเสรีภาพ แล้วเราจะอยู่ในสังคมได้โดยสงบเรียบร้อย” นายสมยศกล่าว