วันที่ 7 ธันวาคม 2564 กลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ได้ออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์การสลายชุมนุมผู้ชุมนุมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นในยามวิกาล ที่ปักหลักชุมนุมทวงสัญญาที่รัฐบาลเคยให้ไว้ในการรับฟังเสียงประชาชนต่อการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ แต่กลับใช้กำลังจนท.สลายผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นสตรี เด็กและคนชรา จำนวน 36 โดยเนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า

#SAVEจะนะ : หยุดเอื้อนายทุน ปล่อยตัวผู้ชุมนุมอย่างไม่มีเงื่อนไข

การชุมนุมทวงถามสัญญาจากรัฐบาลของพี่น้องเครือข่าย “จะนะรักษ์ถิ่น” เพื่อมาทวงสัญญา SEA (Strategic Environmental Assessment) หรือการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกับภาคประชาชน จากรัฐบาลในโครงการนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งการชุมนุมที่สันติวิธีที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยมีการชุมนุมมา พี่น้องชาวบ้าน เดินทางด้วยความยากลำบาก ด้วยระยะทางกว่า 1,000 กว่ากิโลเมตร จากบ้านเกิดถิ่นฐานของพวกเขา ใช้ระยะเวลาเป็นวันๆ มาเพื่อมาทวงถาม “สัญญา” ที่รัฐบาลเคยให้ไว้กับเขาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งบัดนี้ สัญญาที่รัฐบาลเคยให้ไว้อย่างเป็นมั่นเป็นหมาย จะครบ 1 ปี ในสัปดาห์หน้า

โดย “สัญญา” ที่พี่น้องชาวจะนะ ขึ้นมาทวงถามจากรัฐบาลนั้นมีเพียง 3 ข้อเรียกร้อง ที่เรียบง่ายและสามารถพูดคุยกันได้ คือ

1. รัฐบาลจะตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ ศอ.บต. ถึงความไม่ปกติของโครงการทั้งหมด

2. รัฐบาลจะจัดให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงยุทธศาสตร์หรือ SEA แบบมีส่วนร่วม ที่จะมีคณะศึกษาอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อให้รัฐบาลมีเหตุผลทางวิชาการประกอบการตัดสินใจเดินหน้าหรือยุติโครงการต่อไป และ

3. รัฐบาลสัญญาว่าจะยุติการดำเนินงานทุกอย่างไว้ก่อนจนกว่าการดำเนินการในข้อ 1 และข้อ 2 จะแล้วเสร็จ ซึ่งภาคประชาชนทั้งหมดยอมรับในข้อตกลงดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างด้วยดี

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของพี่น้องชาวบ้าน ซึ่งเราอาจพูดได้เลยว่า เป็นการชุมนุมที่สงบ สันติ ที่สุดครั้งหนึ่ง และทำในสิ่งที่ถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่มีการกระทำใดๆที่ขัดต่อ “กติกาสูงสุดของประเทศ” แม้แต่ข้อเดียว แต่มิวาย ถูกปราบปรามด้วยการใช้ความรุนแรงอันเกินกว่าเหตุ มีการใช้กำลังไปล้อมจับ อุ้มชาวบ้านขึ้นรถผู้ต้องขัง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของชาวบ้านที่หวาดผวาต่อการใช้กำลังเข้าปราบปราม และกระทำการอย่างอุกอาจในเวลาวิกาล

มีการขัดขวางการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องนำเสนอข้อเท็จจริงต่อการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ มีการจับผู้ชุมนุมกว่า 36 คน เป็นผู้ชาย 1 คน และ เป็นผู้หญิง 35 คน และพวกเขาก็กำลังจะถูกดำเนินคดี ว่าเป็นการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน อ้างสถานการณ์โรคระบาด จากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้กำลังในการเข้าสลายการชุมนุมพวกเขาด้วยวิธีการที่ผิดหลักปฏิบัติสากล

CARE คิดเคลื่อนไทย ขอประณามการใช้รุนแรงอันเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ ต่อการชุมนุมโดยสันติของพี่น้องกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และ “ปล่อยตัว” ชาวบ้านโดยไม่มีเงื่อนไข หรือข้อแลกเปลี่ยนใดๆโดยเร็วที่สุด รวมถึงหยุดการดำเนินคดี หรือแจ้งข้อกล่าวหาชาวบ้าน โดยทันที

หยุดความโอหังคลั่งอำนาจ ใช้ พรก.ฉุกเฉิน ปิดปาก-ทำร้ายประชาชน และ ทำลายหลักการรัฐธรรมนูญ

หยุดเอื้อนายทุน ทำลายวิถีชีวิต และ การมีส่วนร่วมของประชาชน