สรท.ชี้ ‘น้ำมันแพง’ กระทบหนัก หวั่นสิ้นปีพุ่งอีก ‘กรมการค้าภายใน’ แจงไม่กระทบต้นทุนราคาสินค้า

เผยผลกระทบ ‘น้ำมันแพง’ หวั่นสิ้นปีนี้พุ่งอีก จี้พลังงาน รักษาเสถียรภาพ ‘กรมการค้าภายใน’ แจงไม่กระทบต้นทุนราคาสินค้า ยันไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา

วันที่ 7 ต.ค.64 หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนนั้น นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์การใช้และราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ว่า เกิดจากสาเหตุมาจากความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่กลุ่มโอเปกควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นแตะ 80 เหรียญต่อบาร์เรล จากปีที่แล้วที่มีราคา 45 เหรียญต่อบาร์เรล และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งไปถึง 90 เหรียญต่อบาร์เรลในสิ้นปีนี้

นายชัยชาญ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ประชาชนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลานานเมื่อสถานการณ์ต่าง ๆคลี่คลายก็ออกเดินทางมากขึ้น มีการใช้น้ำมันในการเดินทาง สหรัฐ จีน สหภาพยุโรปใช้น้ำมันเพื่อปั้นไฟเพื่อผลิตความร้อน โรงแรมที่พักเปิดให้บริการ โรงงานอุตสาหกรรมก็เริ่มผลิตสินค้าเต็มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคเพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจนราคาสูงขึ้นในปัจจุบัน

ส่วนผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทยนั้นกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานเช่น น้ำมันสำเร็จรูป โพลีเอสเตอร์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ยางล้อ ทั้งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศและที่ผลิตเองในประเทศซึ่งก็จะส่งผลให้สินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบหรือสินค้าเหล่านี้ก็จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้น ตนจึงเห็นด้วยกับการที่ กระทรวงพลังงาน ใช้กลไกกองทุนน้ำมันรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ โดยต้องดำเนินการต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

เพราะหากปล่อยให้ราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้น ๆไปเรื่อย ๆก็จะทำให้ประชาชนไม่อยากเดินทาง ภาคบริการปิดให้บริการ ภาคการผลิตมีต้นทุนสูงขึ้น ราคาสินค้าในประเทศก็อาจปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยเพราะทั้งการผลิต และต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศและทำให้ประเทศเสียโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปอย่างน่าเสียดาย

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับราคาพลังงานที่ปรับขึ้นขณะนี้ รมว.พาณิชย์ ได้กำชับให้กรม เข้าไปติดตามดูแลว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นราคาน้ำมันที่สูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนทำให้ต้นทุนของหมวดสินค้าต่าง ๆเพียงเล็กน้อยคือแค่ 0.0007%-0.3733% หรือไม่ถึง 1% ถือว่าน้อยมาก ๆ และก็ไม่ได้กระทบต่อต้นทุนของราคาสินค้า และขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดขอปรับขึ้นราคาและกรมก็ไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา

ทั้งนี้หากพบผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ปัญหาราคาน้ำมันในประเทศที่สูงขึ้นยังเป็นปัจจัยที่กวนใจผู้ประกอบการ แม้ว่ารัฐบาลจะตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตรแล้ว แต่ก็อาจส่งผลต่อราคาต้นทุนของวัตถุดิบ โดยมองว่าราคา จะอยู่ในกรอบ 75-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ไม่มากไปกว่านี้

โดยทางหอการค้าต้องการให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้มากกว่านี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามามากกว่านี้ ทำไมรัฐบาลไม่ผ่อนคลายให้มากกว่านี้ เพราะขณะนี้ประชาชนก่อหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น กำลังซื้อก็หดหาย เพราะการผ่อนคลายของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมายังไม่เพียงพอยังแก้ไขปัญหาไม่ได้