รมต.ปวดใจ สื่อยกภาพสหรัฐเผ่นจากกรุงคาบูลหลังตาลีบันตีแตก วอนอย่าเทียบวันไซง่อนแตก

สำนักข่าว เอพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในสมรภูมิอัฟกานสถาน หลังตาลิบันบุกยึดกรุงคาบูล เมืองหลวง ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่กองทัพสหรัฐอเมริกาส่งกำลังพลไปอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและชาวอเมริกันทั้งหมดออกมา จนถูกเปรียบเทียบภาพสะท้อนความพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม เมื่อ 46 ปีก่อน

สื่อมวลชนหลายแขนงต่างเปรียบเทียบภาพวันที่เจ้าหน้าที่ซีไอเอนำเฮลิคอปเตอร์สหรัฐบินไปรับชาวอเมริกัน อพยพจากกรุงไซ่ง่อน หรือ นครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2518 กับภาพเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปอพยพนักการทูตจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาบูล เมื่อ 15 ส.ค. เร็วกว่ากำหนดที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สั่งถอนทัพเสร็จสิ้นวันที่ 31 ส.ค.

นายแอนโธนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวกับรายการ This Week ของสถานีเอบีซี ว่า ทั้งสองเหตุการณ์นี้เปรียบเทียบกันไม่ได้ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่ปวดใจ

“ครั้งนี้เป็นการทำอย่างรอบคอบมาก เป็นการปฏิบัติที่เป็นไปในวิถีคำสั่งที่เตรียมการไว้” นายบลิงเคนกล่าว และว่า การรับรองความปลอดภัยของคนอเมริกันและชาวอัฟกันที่ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐเป็นภารกิจสำคัญที่สุดในตอนนี้

This picture taken from the top of a hillside shows a general view of the Kabul city on August 15, 2021. (Photo by Wakil KOHSAR / AFP)

ทั้งนี้ สหรัฐส่งเครื่องบินขนส่ง และกำลังทหารชุดใหม่ที่เพิ่มเข้าไปอีกราว 6,000 นาย เพื่ออพยพเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสหรัฐออกมา

การอพยพอย่างเร่งด่วนของสหรัฐดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ต่อรัฐบาลนายไบเดนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการปล่อยให้ชาวอัฟกันตกอยู่สภาวะหวาดหวั่นการยึดครองของตาลิบันที่เคยปกครองชาวอัฟกันอย่างกดขี่ รุนแรง โดยเฉพาะกับผู้หญิง

Smoke rises next to the U.S. Embassy in Kabul, Afghanistan, Sunday, Aug. 15, 2021. Taliban fighters entered the outskirts of the Afghan capital on Sunday, further tightening their grip on the country as panicked workers fled government offices and helicopters landed at the embassy. Wisps of smoke could be seen near the embassy’s roof as diplomats urgently destroyed sensitive documents, according to two American military officials. (AP Photo/Rahmat Gul)

แซม เลอร์แมน ทหารผ่านศึกกองทัพอากาศสหรัฐที่พยายามช่วยผู้รับเหมาชาวอัฟกันอพยพออกจากกรุงคาบูล ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นการฆาตกรรมโดยสิ่งที่ไร้ความสามารถ”

ด้าน ฟรานเชสกา มันม็อกชี นักข่าวอิตาลี โพสต์ภาพเฮลิคอปเตอร์ของอิตาลีมารับตนที่สนามบิน พร้อมเขียนคำบรรยายว่า “สนามบินคาบูล การอพยพ เกมจบแล้ว” พร้อมเผยว่าขบวนรถที่นำตนมาสนามบินถูกตาลิบันขว้างหินใส่ ขณะที่ตนเห็นควันไฟพวยพุ่งระหว่างทาง

นายไฮโก มาสส์ รมว.ต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า รัฐบาลเยอรมนีแสดงความประหลาดมาหลายครั้งที่เห็นสหรัฐเร่งถอนกำลังออกมา และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์นั้นยากที่จะทนดูตาลิบันเข้าครอบครองอัฟกานิสถานอย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลอัฟกานิสถานทำอะไรเพื่อหยุดไว้ไม่ได้เลย