ตำรวจไทยรวบ 3 นักข่าวพม่า ข้ามแดนหนีภัยรัฐบาลทหารคุกคามสื่อ FCCT จี้ปล่อยตัวทันที ย้ำโลกจับตามองอยู่

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ผู้สื่อข่าวอาวุโสชาวพม่า 3 คน ซึ่งหนีจากการคุกคามสื่อของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างรัฐบาลทหารกับประชาชนฝ่ายต่อต้านที่ยืดเยื้อกว่า 3 เดือน ถูกจับกุมโดยตำรวจบริเวณ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ของไทยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวอาวุโสทั้ง 3 นี้ ทำงานอยู่กับสำนักข่าวออนไลน์ดีวีบี หรือในชื่อเต็ม “เสียงประชาธิปไตยของพม่า” โดย เย ชัน เนียง บรรณาธิการและผู้บริหาร กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ทั้ง 3 คนไปร่วมกับนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 คน ถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ทีผ่่านมาระหว่างการสุ่มตรวจค้นจับกุมของตำรวจไทย โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย

จากภาพข่าวของสื่อท้องถิ่นของไทย ปรากฎภาพนักข่าวยังคงทำหน้าที่รายงานข่าวจากบ้านเดี่ยวขนาดเล็กที่ถูกทำเป็นสตูดิโอในการผลิตสื่อและรายงานข่าว

ทั้งนี้ สภาบริหารแห่งรัฐหรือรัฐบาลเผด็จทหารพม่า ซึ่งได้ยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และต้องเจอการต่อต้านจากประชาชนและกลุ่มชาติพันธุ์จนเกิดการลุกฮือทั่วประเทศและมีการปราบปรามอย่างหนักนั้น ยังมีความพยายามปิดปากสื่ออิสระหลายสำนักด้วยการออกคำสั่งปิดสถานี ถอดใบอนุญาตและจับกุมนักข่าวที่รายงานข่าวที่ส่งผลเชิงลบต่อรัฐบาลเผด็จการทหาร จากการใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมทารุณ จนตอนนี้มีนักข่าวถูกจับกุมแล้ว 40 ราย โดยส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาจากความผิดฐานเผยแพร่ข่าวปลอม “ที่ก่อให้เกิดความผิดทางอาญาต่อพนักงานของรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม”

ด้านสำนักข่าวดีวีบีแถลงเรียกร้องทางการไทย อย่าส่งตัวนักข่าวทั้ง 3 กลับพม่า ซึ่งหากกลับไปจะต้องได้รับอันตรายอย่างร้ายแรง

ไม่เพียงเท่านี้ ดีวีบี ยังเรียกร้องไปยัง สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องความปลอดภัยของนักข่าวและประชาคมระหว่างประเทศขอให้รัฐบาลไทยอย่าเนรเทศพวกเขา

ขณะที่ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ เอฟซีซีที ได้ออกแถลงการณ์เช้านี้ว่า จากการที่ตำรวจไทยเข้าจับกุม 3 ผู้สื่อข่าอาวุโสและผู้เกี่ยวข้องอีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดขึ้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้นั้น

บุคคลทั้ง 5 นี้จะต้องเผชิญกับการจับกุมและการข่มเหงบางอย่าง หากไม่เลวร้ายไปกว่านั้น สำหรับการทำงานและการเชื่อมโยงกับ DVB และไม่ควรถูกส่งตัวกลับพม่าไม่ว่าในกรณีใด แต่ควรปล่อยนักข่าว DVB และพรรคพวกออกจากการคุมขัง พร้อมเสนอการคุ้มครองอย่างเร่งด่วนและให้สิทธิ์ในการอยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ นักข่าวมากกว่า 70 คนเป็นหนึ่งในผู้คนราว 5,000 คนที่ถูกจับกุมโดยกองกำลังความมั่นคงนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ส่วนใหญ่ยังคงถูกคุมขังในช่วงเวลาที่มีรายงานการทรมานและการวิสามัญฆาตกรรมอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม รัฐบาลทหารของพม่าสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ได้เพิกถอนใบอนุญาตของสำนักข่าวดีวีบี พร้อมกับองค์กรสื่ออื่น ๆ อีก 4 แห่งเพื่อดำเนินการในประเทศทำให้การรายงานเครือข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่นักข่าวเหล่านี้ยังคงทำงานของพวกเขาต่อไปทำให้พวกเขาตกเป็นเป้านของรัฐบาลเผด็จการทหาร

ความเป็นปรปักษ์ของสภาบริหารแห่งรัฐ ที่มีต่อการรายงานของดีวีบี แสดงให้เห็นโดยการสั่งห้ามใช้จานดาวเทียมทั่วประเทศของรัฐบาลทหารในวันที่ 4 พฤษภาคม เป้าหมายหลักของการห้ามนี้คือการรายงานโดยดีวีบี และสำนักข่าวที่ถูกห้ามอีกแห่งหนึ่งคือ Mizzima ซึ่งยังคงออกอากาศทางดาวเทียมในประเทศ

ทั้งนี้ เอฟซีซีที ย้ำว่า โลกกำลังจับตาดูสิ่งที่ทางการไทยทำในกรณีสำคัญนี้เพื่อเสรีภาพสื่อมวลชนในพม่าและภูมิภาคและเพื่อปกป้องผู้ที่หลบหนีการปราบปรามอย่างโหดร้ายของรัฐบาลทหารที่มีต่อสื่ออิสระและภาคประชาสังคม