“เพื่อไทย” เย้ย “ประยุทธ์” เทียบความฉลาดกับ “โทนี่” ไม่ได้

“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” เทียบความฉลาดกับ “โทนี่” ไม่ได้ เลยส่งคนไร้ค่าออกมาโต้ เผย คนถามหา “โทนี่ “ เพราะผู้นำหมดปัญญาถึงขนาดต้องแบก ครม.พัวพันยาเสพติด แนะเลิกผิดซ้ำซ้อน เยียวยาให้ตรงความลำบาก

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ลุกลามหนักของการแพร่เชื้อของโควิด-19 ละลายวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์อย่างรุนแรง ตอกย้ำความแตกต่างของความเป็นผู้นำประเทศในยามวิกฤติ ไม่สามารถเทียบชั้น “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ พี่โทนี่แห่งคลับเฮ้าส์ได้เลย

“เดือดร้อนถึงขั้นองครักษ์พิทักษ์หน้าเดิมของพล.อ.ประยุทธ์ต่างก็ดาหน้าออกมาโต้แทนโดยไม่ได้มองที่สาระประโยชน์สำหรับประชาชน เมื่อไหร่จะเลิกใช้วิธีแบบเดิมๆ ลองเปิดใจให้กว้างมองประเทศชาติและประชาชนว่าต้องรอดให้ได้ ฟังท่านทักษิณให้แนวคิดเรื่องการทำโรงพยาบาลสนาม รัฐบาลไทยต้องรู้ คือ การทำโรงพยาบาลสนาม ณ ปัจจุบันไม่มีโซเชี่ยลดิสแทนซิ่ง ไม่มีอะไรกั้น โอกาสของการแพร่ขยายกระจายเชื้อมีสูง โดยรัฐสามารถไปเหมาโรงแรมที่ไม่มีนักท่องเที่ยวดัดแปลงเอามาทำเป็นที่กักตัวซึ่งปลอดภัยกว่า รั้วรอบขอบชิด มีห้องน้ำในตัว ห้องใครห้องมัน ปลอดเชื้อ นี่ขนาดแนวคิดเรื่องนี้เรื่องเดียว คนมีเชื่อมั่นและพูดว่า ถ้าวันนี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ปัญหาวันนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น เศรษฐกิจประเทศไม่มีทางเป็นอย่างนี้ และไม่มีทางปล่อยให้คนต้องอดตาย ฆ่าตัวตาย เหมือนเช่นวันนี้อย่างแน่นอน”

” คุณทักษิณเคยยกตัวอย่างประเทศยูเออีที่ท่านอาศัยอยู่ ซึ่งใช้การเร่งการตรวจค้นผู้ติดเชื้อ เร่งฉีดวัคซีนให้พลเมืองให้มากที่สุด จัดสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าให้คนสามารถเข้ามาฉีดวัคซีนได้สะดวก มีวัคซีนให้เลือกหลากหลายชนิด ประชาชนไม่ตื่นตระหนก กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้ โดยยังต้องนั่งห่างกัน 3 เมตร เมื่อตรวจพบผู้ป่วยให้เจ้งหน่วยงานและอยู่บ้านแยกตัวจากสมาชิกในบ้าน แยกกินอาหาร กินวิตามินซี และสังกะสี (Zinc) อาหารที่เป็นประโยชน์ ป้องกันอย่าให้เชื้อผ่านลำคอลงไปที่ปอด ยกเว้นกลุ่มเปราะบาง คนสูงวัย มีโรคประจำตัว ถ้าป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ซึงรัฐบาลต้องพร้อมในการรองรับการรักษาให้ทันท่วงที ใช้หลักการป้องกันดีกว่าการควบคุม แก้ได้”

” แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยทำกลับไปสั่งให้หยุดทุกอย่าง หลังจากการประกาศคุมเข้มพื้นที่สีแดง รัฐบาลออกมาตรการปิดสถานบันเทิง สถานบริการ และอีกหลายพื้นที่ รวมถึงห้ามรับประทานอาหารในร้าน เกิดผลกระทบวงกว้าง ร้านอาหารทุกร้านรายได้หด แบกหนี้สิน แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการมารองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจของประชาชนอย่างสมเหตุสมผล นอกจากจะไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโรค ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจและเพิ่มความลำบากให้ดิ่งหนักกว่าเดิม รัฐบาลกู้เงินมา ไม่ได้ใช้แก้โควิด แต่ใช้แจกไม่ตรงกับความเดือดร้อนของประชาชน วันนี้คนกลัวว่าจะตายเพราะโควิด หรือตายเพราะเศรษฐกิจ มันต้องแก้แบบคู่ขนานเพราะมันเป็นเรื่องความเป็นความตายทั้งคู่ เศรษฐกิจตอนนี้จะพังเพราะคนไม่มีเงิน ยิ่งรัฐบาลจะมาออกนโยบายแจกเงินแบบเอาเหยื่อใส่เบ็ดเพื่อเอากุ้งฝอยไปตกปลากระพง เลิกคิดได้เลย ขนาดปลาซิวก็ตกไม่ได้ ตอนนี้จะเกิดภาวะไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย จะเกิดขึ้นอีก คนขาดรายได้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ เงินจะกินข้าวยังไม่มี รัฐบาลต้องออกกฎหมายมาเพื่อแก้หนี้ให้กับประชาชน ทั้งพักหนี้เกษตรกร พักหนี้ธนาคารหนี้สินต่างๆของประชาชน ไม่อย่างนั้นจะได้เป็นคนจนหมดทั้งประเทศสมดังคำพูดของนายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ อดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพล.อ.ประยุทธ์แน่นอน”

“ส่วนเรื่องเงินเยียวยา คุณพิชัย หัวหน้าทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน แต่จำนวนเงินยังน้อยไม่เพียงพอกับการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบ และควรเยียวยาเป็นเงินสดด้วยเพราะความลำบากของประชาชนไม่สามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นได้ทั้งหมด ภาพคนต่อแถวหน้าธนาคารครั้งที่แล้วน่าจะเป็นบทเรียนให้กับรัฐบาล หากยังคิดทำแบบเดิมในการช่วยเหลือ มันไม่ทันความเดือดร้อนและไม่ทั่วถึง รัฐบาลต้องเข้าใจหัวอกของประชาชนที่ต้องหนีความลำบากทั้งจากโรคร้ายและพิษเศรษฐกิจ ยิ่งพื้นที่คลัสเตอร์คลองเตย ต้องรีบคัดกรอง แล้วตรวจให้่มากที่สุดพื้นที่ชุมชนแออัด รีบแยกคนป่วยกับคนไม่ป่วยออกจากกัน รีบฉีดวัคซีน ให้ความรู้และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อวัคซีนก่อนฉีด พูดความจริงกับประชาชนให้หมด ตัดสินใจให้เร็ว”

“เรื่องวัคซีนต้องเร่งหาให้ประชาชน อย่าทำเหมือนระบบเติมเงินแบบโทรศัพท์ ชนิดรอเงินหมดแล้วค่อยเติมมันไม่ทันกาล เวลานี้ประชาชนอยู่ในความหวาดกลัว กลัวเชื้อโรค ไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล ไม่มั่นใจในวัคซีน เพราะลำพังผู้นำประเทศอย่างพล.อ.ประยุทธ์ยังฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม รัฐมนตรีก็ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ แล้วประชาชนที่ไหนจะกล้า ถ้าผู้นำเก่ง ป่านนี้คงรีบไปดูว่าประเทศไหนมีวัคซีนเหลือ แล้วใช้ความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ส่วนตัว ขอมาใช้ได้ก่อนแล้ว แต่มันจะยากหน่อยเพราะตราบใดผู้นำยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นคนเดิมคนเดียวที่เคยเป็นหัวหน้าการยึดอำนาจมาก่อน และแถมยังมีรัฐมนตรีในรัฐบาลที่เคยพัวพันคดีแป้งที่โด่งดังในต่างประเทศ รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวพันกับการเกิดคลัสเตอร์ทองหล่อ ที่มาของทองแท้แพ้ทองหล่อ ในการแพร่เชื้อโควิดระลอก 3 สงสารประชาชนคนไทยการ์ดไม่เคยตกแต่กรรมตกเป็นของประชาชน คงต้องรอวันนับจำนวนคนตายทุกวันอย่างไร้ความหวังกับผู้นำประเทศนี้ ” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย