บิ๊กป้อม ถก ปคม. ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เพิ่มประสิทธิภาพงานปราบปรามค้ามนุษย์ ให้กำลังใจทุกหน่วยทำงานภายใต้ สถานการณ์โควิด

ลุงป้อม ถก ปคม. ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานปราบปรามค้ามนุษย์ ให้กำลังใจทุกหน่วยทำงานภายใต้ สถานการณ์โควิด 19 ระบาด

วันนี้ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (คณะกรรมการ ปคม.) ครั้งที่ 2/2564 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

พลเอก ประวิตรฯ กล่าวว่า การประชุมฯ ในวันนี้ ที่ประชุมได้คัดเลือกประธานกรรมการ/กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 4 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) คณะกรรมการประสานและกำกับ การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกจะได้ดำเนินการเสนอแต่งตั้งตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อจะได้ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งในระดับนโยบาย และการกำกับ/ติดตามในระดับปฏิบัติต่อไป

พลเอก ประวิตรฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ จัดทำสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2563 ให้ประชาชนผู้อ่านสามารถติดตามเรื่องได้ง่ายขึ้น โดย พม. ได้จัดทำสรุปภาพรวมดังกล่าวในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) ฉบับย่อ นำเสนอข้อมูลสำคัญ ใช้ภาษาและภาพที่ช่วยให้ประชาชนอ่านและเข้าใจง่าย เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พม. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเผยแพร่ไปยังหน่วยงานและประชาชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้รับทราบการดำเนินงานของรัฐบาล ในการปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างทั่วถึง

โดยก่อนปิดการประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่ทำงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยอาจมีความยากลำบากและต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก แต่ขอให้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป และขอให้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ภายหลังโควิดคลี่คลายด้วย พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวการรับผลประโยชน์กับขบวนการนำพาและค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด