รัฐที่ประสบปัญหาโควิดระบาดหนักที่สุดยังเป็นรัฐมหาราษฏระ มีผู้ป่วยทะลุ 4.41 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 66,000 ราย รัฐเกรละติดเชื้ออย่างน้อย 1.46 ล้านคน รัฐกรณาฏกะป่วยรวมกว่า 1.40 ล้านคน รัฐอุตตรประเทศ 1.15 ล้านคน และรัฐทมิฬนาฑู 1.11 ล้านคน

วันเดียวกันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลังทางการรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งมีผู้ป่วยสะสมมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ กับจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 776,000 คน เดินหน้าจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดซึ่งเกรงว่ารัฐเบงกอลตะวันตกจะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะในอนาคตอันใกล้

แม้รัฐบาลจะแถลงย้ำเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 แต่กลับมีรายงานว่าผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งหลายคนไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม

ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาแถลงว่าจะเร่งส่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งถังบรรจุออกซิเจน 1,000 ถัง และหน้ากากอนามัย เอ็น 95 จำนวน 15 ล้านชิ้น รวมมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.12 พันล้านบาท เพื่อบรรเทาวิกฤตไวรัสที่กำลังถาโถมอินเดีย

นอกจากนี้ทางการสหรัฐยังปรับกระบวนการผลิตในโรงงานที่ผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อส่งวัคซีนราว 20 ล้านโดสไปยังอินเดีย “เช่นเดียวกับที่อินเดียส่งความช่วยเหลือมายังสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งที่โรงพยาบาลของเราเผชิญกับความตึงเครียดในช่วงเริ่มต้นการระบาด สหรัฐมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลืออินเดียในเวลาที่ต้องการเช่นกัน” ทำเนียบขาวระบุจากแถลงการณ์

ด้าน นายโจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน แถลงว่ารัฐบาลไต้หวันจัดซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน 150 เครื่องและจะดำเนินการส่งไปยังอินเดียภายยในสัปดาห์นี้ “เราอยู่ระหว่างกระบวนการจัดสรรเครื่องผลิตออกซิเจนเพิ่มเติม รวมทั้งวัสดุจากต่างประเทศเพื่อให้บริษัทในไต้หวันจัดทำเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวนมาก” นายอู๋อธิบาย และว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ นอกเหนือจากอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่อินเดียด้วย