อ่านสิ่งที่ “พี่ Tony -บุตรชาย” สอน-แนะนำ “ประยุทธ์”

โอ๊ค พานทองแท้ อัดอีก! วัคซีนโดสไม่กี่ร้อย มัวแต่แจกเงิน หวังคะแนนเสียงอยู่นั่นแหละ ประเทศอื่น เขาฉีดนักท่องเที่ยวแล้ว ระวังจะจบไม่สวย

20 เม.ย. นาย พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีปัญหาการแก้วิกฤติโควิดของรัฐบาล รวมถึงปัญหาวัคซีนล่าช้า ซึ่งเป็นวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน โดยระบุว่า งานการทำไม่เป็น เอาแต่พูดพล่าม แจกเงิน หวังคะแนนเสียงอยู่นั่นแหละ

เงินสดๆแจกไป แว๊บเดียวชาวบ้านก็ใช้หมด แล้วเขาจะอยู่ต่อไปกันอย่างไร ในเมื่อยังทำมาหากินไม่ได้ #ลุงปั๊มเงินเองเหรอ เงินภาษีชาวบ้านเขาทั้งนั้น ลุงไปกู้มาแจก ในอนาคตลูกหลานไทย ก็ต้องตามไปใช้หนี้แทนลุงอีก ประเทศอื่นเขาจะเปิดประเทศกันหมดแล้ว ลุงงงงง..!!

รีบหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนสิครับ โดสละไม่กี่ร้อยบาท มัวแต่หว่านแห เหวี่ยงเงินทิ้งอยู่นั่นแหละ ไม่มีปัญญาหาวัคซีนได้เหมือนผู้นำประเทศอื่น ทำไมไม่ปล่อยให้เอกชนเขาจัดหาเอง ยี่ห้อไหนที่นำเข้าได้ก็บอกเขาไป ก็แค่นั้น ประเทศอื่น เขาเตรียมฉีดให้นักท่องเที่ยว ที่จะไปเที่ยวเมืองเขากันแล้ว

หวังว่าคงไม่ได้คิด #ตัดช่องน้อยแต่พอตัวนะครับ ฉีดตัวเองแล้ว ฉีด ครม. แล้ว ฉีดครอบครัวแล้ว ประชาชนเลยไม่ต้องรีบ กั๊กไว้แจกเงินหาเสียงก่อน ถึงวันที่เขาฉีดวัคซีนกันหมด เปิดประเทศกันหมดแล้ว เหลือแค่ประเทศไทย วันนั้นประชาชนจะรู้ทัน ระวังลุงจะ #จบไม่สวย

โอ๊คเตือนลุงแล้วนะ…

ขณะที่คืนวันเดียวกัน นายทักษิณ ได้กล่าวผ่านในคลับเฮ้าส์ หัวข้อฝ่าวิกฤติกับพี่ Tony ตอนหนึ่งว่า “ประยุทธ์” เป็นข้าราชการทหารมาทั้งชีวิต อยู่กับระเบียบวินัย อยู่กับการสั่งการแบบบนลงล่าง ใช้งบประมาณรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่คนเก่งเศรษฐกิจอะไร เราต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่พูดแล้วประยุทธ์ฟัง

แล้วถ้าเราเอาธรรมชาติแบบประยุทธ์มาบริหารเศรษฐกิจ มันทำไม่ได้หรอก ยิ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแล้วประวิตรมาแจกขันนี่เข้ากันเลย แล้วใหญ่ไปหมด

ส่วนกรณีเรื่องวัคซีน” ผมว่าต้องไปร่วมกับหลายประเทศ นักธุรกิจหลายคนมีขีดความสามารถที่จะไปเจรจากับบริษัทผลิตวัคซีน เช่น จีน สิงคโปร์ รัสเซีย อย่างตะวันออกกลางใช้ซิโนฟาร์มเยอะมาก นักธุรกิจชั้นนำของไทยมีคอนเนกชั่นมากมาย ขอให้แต่ละคนช่วยกันเจรจาสิครับ เช่น เจ้าสัวธนินท์ ขอให้ท่านไปช่วยเจรจากับประเทศจีน เจ้าสัวเจริญ ไปเจรจากับสิงคโปร์ หรือจะให้ผมไปช่วยคุยกับ ปูติน รัสเซียก็ได้
.
สรุป คือ รัฐบาลเองจะต้องตื่นตัวมากกว่านี้ พอได้มา ก็รีบกระจายวัคซีน ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่เดียว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและร้านอาหารต้องฉีดก่อน