ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ 4 รมต.ใหม่ ‘ชัยวุฒิ’ นั่งดีอีเอส ‘ตรีนุช’ คุมศึกษาตามคาด ‘วีรศักดิ์’ นั่งคมนาคม ส่วน ‘สินิตย์’ เป็น รมช.พาณิชย์

วันที่ 23 มี.ค.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มี.ย.2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 ก.ค.2562 และประกาศครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 1 ต.ค.2563 นั้น

บัดนี้ นายกฯ ได้กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรี 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างและปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ให้ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

2.ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็น รมช.คมนาคม, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสินิตย์ เลิศไกร เป็น รมช.พาณิชย์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เป็น รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 มี.ค.2562 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ภายหลังจากที่ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นางสาวตรีนุช เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นับเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหญิงคนแรก และทำให้กระทรวงศึกษาธิการ มีรัฐมนตรีหญิง ทั้ง 3 คน

กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มที่เคลื่อนไหวของเหล่านักเรียน ที่เน้นหนักในเรื่องการตีแผ่ปัญหาการศึกษาของไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่แกะกล่องจากพลังประชารัฐ : ตรีนุช เทียนทอง
วีรกรรมที่สำคัญ

– ปัดตกการเสนอให้มีคณะกรรมาธิการผู้มีความหลากหลายทางเพศ
– ไม่เห็นด้วยในการตั้งกมธ.วิสามัญ ศึกษาผลกระทบจากม.44
– ไม่เห็นด้วยในการตั้งกมธ.วิสามัญ ศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต

สุดท้ายแล้วอนาคตของนักเรียนไทย ก็เป็นเพียงเค้กก้อนหนึ่งที่ผู้ใหญ่แบ่งกันไปแบ่งกันมา เมื่อคุณตรีนุชได้รับเค้กชิ้นนี้ไปแล้ว ก็อย่ากินมูมมามนะคะ”

สำหรับ น.ส.ตรีนุช ถือเป็นหลานสาวแท้ๆ ของ นายเสนาะ เทียนทอง เคยเป็น ส.ส.หลายสมัย ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พรรคประชาราช มาจนถึงพรรคเพื่อไทย แต่เลือกตั้งรอบที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนขั้วอยู่ค่ายพลังประชารัฐ พร้อมๆกับ นายฐานิสร์ พี่ชาย ด้วยอำนาจบารมีของพล.อ.ประวิตร กับฐานเสียงทหาร ทำทีม “ป๋าเหนาะ” แพ้และพื้นที่นี้ พปชร.บุกยึดได้สำเร็จ

ส่วนบัญชีรายการทรัพย์สิน และหนี้สินต่อป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. รวมทั้งคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน มีทรัพย์สิน 494,981,474 บาท รวมหนี้ 2,536,193 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 416,016,596 บาท เป็นของนายเจษฏา คู่สมรส 70,449,104 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 8,474,773 บาท

ทรัพย์สินส่วนใหญ่ น.ส.ตรีนุช แบ่งเป็นเงินฝาก 36,163,608 บาท เงินลงทุน 38,587,406 บาท ที่ดิน ส่วนใหญ่อยู่ในจ.สระแก้ว สุพรรณบุรี นนทบุรี มูลค่ารวม 298,447,200 โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่ารวม 31,160,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 11,699,382 บาท

ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม “บิ๊กป้อม” เคยกล่าวไว้สัปดาห์ก่อนโปรดเกล้า โดยการันตีว่า โปร์ไฟล์ดี จบวิศวะ จากรั้วจุฬาฯ ก่อนจะมีดราม่าเรื่อง มรภ.ตามมา

นายชัยวุฒิ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สิงห์บุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 เมื่อ เคยอยู่มาแล้วหลายพรรคทั้งประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2544 ปี 2547 ย้ายค่ายสังกัดพรรคชาติไทย ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย ก่อนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยที่ถูกตัดสินยุบพรรค รอบนี้มาอยู่พลังประชารัฐ ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมคู่สมรส น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม.

ส่วนรายการทรัพย์สิน และหนี้สินที่ยื่นไว่ต่อป.ป.ช. รวมถึง คู่สมรส และ บุตรธิดา แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 159,433,082 บาท รวมหนี้ 291,046 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 123,692,651 บาท ของ น.ส.กานต์กนิษฐ์ คู่สมรส 31,340,430 บาท ส่วนบุตร-ธิดา ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 3 คน มีทรัพย์สินรวมกัน 4,400,000 บาท

ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ นายชัยวุฒิ แบ่งเป็นเงินฝาก 10 บัญชี มูลค่า 6,352,275 บาท เงินลงทุน 13,082,876 บ้าน ที่ดิน 13 รายการ ส่วนใหญ่ในจังหวัดสิงห์บุรี ฉะเชิงเทรา กทม. มูลค่ารวม 32,466,500 โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6 รายการ 51,578,000 บาท ยานพาหนะ 3 คัน มูลค่า 2,008,000 สิทธิสัมปทาน 1,885,000 บาท และทรัพย์สิ่นอื่นๆ อาทิ ทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 800 บาท นาฬิกา 3 เรือน รวม 16,320,000 บาท