ไฟเขียว “เอกชน” ซื้อวัคซีนต้านโควิด โดสละ 1 พัน เผยมี 600 บริษัท เข้าจอง

รบ.ไฟเขียว’เอกชน’ซื้อวัคซีนโดสละ1พัน ‘หอค้า’ ลุ้นเปิดปท.ดันศก.โต4% เผยมี 600บริษัท จองซื้อวัคซีนผ่านหอค้า ชง’เราเที่ยวด้วยกัน3’เข้าครม.23มี.ค.

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่หอการค้าไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลายประเทศทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนกันไปมากพอสมควร ซึ่งถือเป็นผลดีกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หากเปิดประเทศในปลายไตรมาส 3 คาดว่าเศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นในไตรมาสที่ 4 และทั้งปีนี้ คาดว่าจะขยายตัว 3-4% ดังนั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนการเปิดประเทศที่ชัดเจน เพื่อรองรับการกลับมาของเศรษฐกิจ

“หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้ทำการสำรวจความต้องการของสถานประกอบการ ขณะนี้มีธุรกิจกว่า 600 บริษัท รวมแรงงานประมาณ 750,000 คน คาดความต้องการทั้งหมดประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งหอการค้าจะนำปริมาณความต้องการนี้ ไปหารือกับภาครัฐในการจัดหาวัคซีน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศปลอดภัยต่อไป”นายกลินท์ กล่าว

ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันให้ภาครัฐอนุญาตเอกชนฉีดวัคซีนให้พนักงานได้เอง ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้ส่งมอบตู้เก็บวัคซีนโควิด-19 ให้กับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงมีโอกาสหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงแนวทางการฉีดวัคซีนของภาคเอกชนซึ่งมีความต้องการซื้อมาฉีดให้พนักงานเอง

ซึ่งนายอนุทินแจ้งให้ ส.อ.ท.รวบรวมความต้องการของสมาชิกและจัดส่งให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อจัดหาให้ ราคาวัคซีนโดสละ 1,000 บาท รวมฉีด 2 โดส ราคา 2,000 บาท จากวัคซีนที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 2 ยี่ห้อ คือ ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า

ขณะนี้ ส.อ.ท.จึงอยู่ระหว่างรอบรวมรายชื่อผู้ประกอบการที่ต้องการ และหารือกับกระทรวงสาธารณสุขถึงขั้นตอนการฉีดที่ต้องการ 2 รูปแบบ คือ กรณีผู้ประกอบการที่มีพนักงานจำนวนมาก อยากให้มีเจ้าหน้าที่ไปฉีดให้ที่บริษัท หรือโรงงาน ส่วนกรณีแรงงานไม่มากให้เดินทางไปฉีดที่สถานที่ที่รัฐจัดเตรียม

ส่วนนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 (เฟส 3) ว่าเป็นโครงการต่อเนื่องจาก 2 ระยะแรกที่มีผู้ใช้สิทธิจองห้องพักในโครงการครบ 6 ล้านห้องแล้ว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ยังเปิดประเทศไม่ได้

จึงเน้นกระตุ้นเดินทางในประเทศก่อน ททท.จึงตั้งใจขยายเวลาการใช้เราเที่ยวด้วยกัน จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 รวมถึงเพิ่มจำนวนห้องพักอีก 2 ล้านห้อง

ความคืบหน้าขณะนี้ หลังจาก ททท.ได้หารือร่วมกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ได้รับการบ้านมาให้จัดทำรายละเอียดของโครงการทุกด้าน เพื่อนำเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะนำรายละเอียดของโครงการที่ได้ทั้งหมด นำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 มีนาคม เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป