จม.อานนท์ : รมว.ยุติธรรม-ผบ.เรือนจำโร่แจง ปมอ้างโควิดพยายามคุมตัว “ไผ่-ไมค์” ไปนอกแดนยามวิกาล

“สมศักดิ์” แจงปมจม.ทนายอานนท์ โยนราชทัณฑ์แจง ‘ผบ.เรือนจำพิเศษ’ แจงพาตัวออกจากแดนกลางดึก อ้างขั้นตอนกักโรคโควิดหลังมาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่มีลึกลับหรือพิเศษ ‘ราชทัณฑ์’ แจงแล้ว พาไปตรวจตอน 5 ทุ่ม! แต่ไม่ตอบจนท.ถือกระบองไม่ติดป้ายชื่อ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเผยแพร่จดหมายของ นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำราษฎร เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวออกนอกเเดนในยามวิกาลว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบและยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเป็นเรื่องรายละเอียดที่ตนไม่ได้ติดตามและยังไม่เคยได้ยิน เพราะตั้งแต่เช้าก็เตรียมตัวที่จะมาฉีดวัคซีนและประชุมครม. ดังนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ว่ากันไป

“ไม่ได้ยิน และไม่ทราบเรื่องระเบียบของเรือนจำ แต่ถ้ามีความจำเป็นก็เห็นยังเข้าออกในเวลากลางคืนได้ เช่น เวลาฝากขังก็เห็นทำได้ แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ทำกันในยามวิกาล เพราะหากเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ก็ควรจะทำกลางวัน เว้นแต่มีกรณีจำเป็นเท่านั้น” สมศักดิ์ กล่าวหลังถูกถามถึงกฎของเรือนจำในการนำตัวผู้ต้องขังออกนอกแดนยามวิกาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีการนำจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผยอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบ ที่ผ่านมาก็มีประเด็นแบบนี้เรื่อย ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เขาก็ทราบว่าเรื่องอะไรที่ควรจะชี้แจงบ้าง แต่ตนไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ

เมื่อถามว่าในเรือนจำสามารถเขียนจดหมาย และส่งออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องผ่านผู้คุม แต่ในกรณีนี้ไม่ทราบว่าผ่านหรือไม่ ส่วนเนื้อหาจดหมายตอนหนึ่งอ้างว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวออกไปตรวจโควิด-19 เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริง ๆ ถ้าเอารายละเอียดทุกประเด็นมาพูดก็คงสับสน ขอให้เจ้าหน้าที่เขาตอบถ้ามีกรณีดังกล่าวจริง เพราะถือเป็นหน้าที่ของเขา

ด้าน นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรีช่วงกลางคืนตามขั้นตอนระเบียบของเรือนจำ จะต้องกักตัวในห้องกักโรคแดน 2 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในช่วงสถานการณ์โควิด19 เป็นเวลา 14 วัน

แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ซึ่งเรือนจำพิเศษธนบุรี อยู่ย่านมหาชัย บางบอน เป็นเขตพื้นที่เสี่ยงสูง ตามมาตรการจะต้องตรวจหาเชื้อและนำตัวไปกักโรคที่บริเวณชั้น 2 ของสถานพยาบาลเรือนจำในแดน 2 เช่นกัน ซึ่งต้องเดินออกจากห้องกักโรคขึ้นไปยังชั้น 2 ของสถานพยาบาลเป็นขั้นตอนปกติ แต่เรือนจำพยายามที่จะแยกผู้ต้องขังกลุ่มนี้ เพื่อตรวจคัดกรองตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์

แต่มีการปฏิเสธไม่ยอมแยกไปห้องกักโรคเสี่ยงสูงบริเวณชั้น 2 สุดท้ายเรือนจำยอมไม่ย้ายก็ไม่ย้าย เพราะไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นปัญหา แต่เป็นห่วงเพื่อนที่อยู่ร่วมห้อง เหตุการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือลึกลับอะไร เจ้าหน้าที่ที่เห็นก็เป็นผู้คุมเรือนจำ

ตรวจโรคตอน 5 ทุ่ม?

ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่ข่าวแจก ชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวว่า

กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารชี้แจง กรณี เฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้มีการโพสต์ภาพข้อความที่เขียนด้วยลายมือระบุว่า

เป็นการเขียนโดยนายอานนท์อ้างว่า ในคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการปฏิบัติงานที่ผิดปกติของเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ที่พยายามแยกตนเองออกจากกลุ่มผู้ต้องขังคนอื่นในยามวิกาล จนเกรงว่าจะได้รับอันตรายแก่ชีวิต นั้น

โดยเอกสารระบุว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว ขอชี้แจงว่า เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ถึงเช้าวันที่ 16 มีนาคม 2564 ภายหลังจากที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับย้ายตัวนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำราษฎร และนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” แกนนำกลุ่ม Wevo มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี

เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น.เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจร่างกาย ก่อนนำตัวมาคุมขังพร้อมกับผู้ต้องขังคนอื่นอีก 9 ราย ในห้องควบคุมผู้ต้องขังภายในแดนแรกรับ เพื่อแยกกักโรคตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์

ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วยคณะแพทย์และพยาบาลจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เข้ามาดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ต้องขังภายในห้องดังกล่าว ซึ่งมีทั้งสิ้น 16 ราย

แต่มีผู้ต้องขังที่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อเพียง 9 ราย และไม่ประสงค์ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อ 7 รายคือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายปิยรัฐ จงเทพ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายอานนท์ นำภา พร้อมพวก จึงต้องดำเนินการแยกกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวรวม 7 คน ออกจากผู้ต้องขังที่ยินยอมรับการตรวจเชื้อ

เพื่อเป็น การแยกกักกันโรคและสังเกตอาการเพิ่มเติมที่สถานพยาบาล ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์และกระทรวง สาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ผู้ต้องขังทั้ง 7 คนดังกล่าว คือนายอานนท์ฯ พร้อมพวก ได้ปฏิเสธการย้ายที่คุมขังออก จากห้องกักกันโรคเดิมไปยังสถานพยาบาลโดยอ้างถึงความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องแยกกลุ่มผู้ต้องขังอีกกลุ่มที่ให้ความยินยอมในการตรวจหาเชื้อจำนวน 9 ราย ไปคุมขังที่ห้องกักกันโรคห้องอื่นแทน โดยการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ

ตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องดำเนินการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 และแยกกักตัวผู้ต้องขัง เข้าใหม่ และรับย้ายทุกรายออกจากผู้ต้องขังอื่น เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน

โดยขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดตามกฎ ระเบียบ และ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด ไม่สามารถกระทำการใดโดยพลการได้ อีกทั้งการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นการกระทำความผิดทางอาญา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถกระทำได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงดังกล่าว กลับไม่กล่าวถึง จนท.ตามตัว พร้อมถือกระบองและไม่ติดป้ายชื่อ 3 ครั้ง หลังเที่ยงคืน

ทั้งนี้ ล่าสุด อานนท์ ได้ทำเรื่องขอศาลเรียกวงจรปิดจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เปิดดูว่า มีการบุกพาตัวไมค์-ไผ่-โตโต้ ยามวิกาลหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงเวลา 20.00 ของวันที่ 15 มีนาคม ถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 16 มีนาคม ในพื้นที่แดน 2 ทั้งชั้นบน-ล่าง ทางเดินชั้น 2 และจุดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง