ประชาภิปราย : ม็อบเฟสต์ เปิดเวทีซักฟอกนอกสภา ชำแหละเละ จี้ “ประยุทธ์” ต้องออก

ม็อบเฟสต์พร้อมด้วยแนวร่วมหลายกลุ่มร่วมจัดชุมนุมใกล้รัฐสภาภายใต้ชื่อ “7 ปีแห่งความล้มเหลว” เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจากนอกสภาคู่ขนานกับการอภิปรายภายในรัฐสภาซึ่งดำเนินไปจนถึงวันนี้เป็นสุดท้ายก่อนที่จะลงมติกันในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น.ซึ่งกลุ่มราษฎรได้ประกาศการชุมนุมซักฟอกรัฐบาลนอกสภาอีกในวันพรุ่งนี้เวลา 15.00 น.

สำหรับวันนี้ ก่อนถึงเวลานัดหมาย 17.00 น. มีกำลังตำรวจโดยรอบรัฐสภา พร้อมเครื่องป้องกันตัวโล่กระบองกว่า 500 นาย กระจายอยู่โดยรอบ จุดแรกเป็นแยกเกียกกาย หัวถนนทหาร มีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน 20 นายยืนหลังรั่วเหล็กที่ล้อมรถฉีดน้ำ และมีรถฉีดน้ำควบคุมฝูงชน 3 คัน รถเครื่องขยายเสียง 2 คน รถบรรทุกน้ำ 6 ค้นจอดเรียงอยู่

จุดที่สองเลยจากแยกเกียกกายมา 100 เมตร ฝั่งถนนสามเสน ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นพร้อมวางลวดหนามหีบเพลง บนถนนฝั่งขาเข้า 2 ช่องการจราจร จุดที่สามบริเวณหน้ารัฐสภา เจ้าหน้าที่ขยับรถฉีดน้ำควบคุมฝูงชน 1 คัน พร้อมรถน้ำ 1 คัน มายังหน้ารัฐสภา และมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน 300 นาย คอยดูแลความปลอดภัย

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางเข้ามายังพื้นที่ มีรถเครื่องขายเสียง พร้อมรถเวที และกลุ่มการ์ดที่เข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ก่อนกันพื้นที่การชุมนุมแค่ถนน 2 เลน อีก 2 เลนให้รถสัญจรไปมาด้านหลังแนว

สำหรับบรรยากาศช่วงค่ำ กลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา โดยประชาชน 7 ปีแห่งความล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ ตั้งแต่ปัญหาสืบทอดอำนาจ ทุจริต เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา เพศ ความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ ย้ำจุดยืนว่า รัฐบาลประยุทธ์ต้องลาออกเท่านั้น โดยกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งเวทีโดยใช้รถ 10 ล้อเป็นเวที บริเวณฝั่งตรงข้ามรัฐสภา

จากนั้นเวลา 19.00 น. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มม็อบเฟสต์บริเวณถนนสามเสน เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีชายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเทียบด้านข้างเวทีปราศรัยที่กำลังอภิปรายนอกสภา ผู้ชุมนุมจึงเข้าไปสอบถามและเกิดการกระชากหมวกกันน็อกคนขี่รถจักรยานยนต์ โดยผู้ชุมนุมระบุว่าอาจเป็นมือที่สามที่เข้ามาในพื้นที่ การ์ดที่ดูแลจึงขอถ่ายรูปคนขี่รถจักรยานยนต์และทะเบียนรถไว้ และให้ขี่รถออกไปนอกพื้นที่ชุมนุม

จากนั้นชายคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมขี่รถวนกลับเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมอีก การ์ดจึงให้หยุดรถพร้อมตรวจค้นพบขวดสุราใต้เบาะรถจักรยานยนต์ หนึ่งในการ์ดที่ดูแลการชุมนุมระบุว่า ชายคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนในที่ชุมนุม โดยคาดว่าอาจจะเมาสุรา และเกรงว่าจะเป็นที่สามที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้

ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่จึงเข้ามาระงับเหตุ ก่อนที่ชายคนดังกล่างจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

ต่อมาเมื่อเวลา 19.40 น. กลุ่ม Mob Fest โดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล และ น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์ ขึ้นเวทีปราศรัย ก่อนที่ นายนิติรัฐ ทรัพย์สมบูรณ์ นักกิจกรรมและอดีตคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กล่าวโจมตีรัฐบาลที่อุ้มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สร้างคะแนนนิยมจากโครงการของรัฐ

จากนั้นเวลา 19.50 น. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ด wevo มาร่วมสังเกตการณ์ริมถนนสามเสนใกล้กับรัฐสภา ก่อนเข้าไปพูดคุยกับแกนนำที่จัดกิจกรรมเรื่องความปลอดภัย นายปิยรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เปิดถนนสามเสนให้รถผ่านฝั่งเดียว คือมุ่งหน้าแยกเกียกกาย แต่เห็นว่ามีรถกระบะขับเข้ามาและเปิดกระจก เกรงว่าอาจเกิดความวุ่นวายได้ มีมือที่สามเข้ามาก่อเหตุ จึงจะประสานเจ้าหน้าที่ให้ปิดถนนทั้งช่องสองทาง หลังจากนั้น นายปิยรัฐ ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวถึงการทำงานของตำรวจไทยที่ไม่อยู่ข้างประชาชน รับฟังคำสั่งของคนที่มาทำร้ายประชาชน ก่อนโจมตีการทำงานและเส้นทางการเติบโตอย่างรวดเร็วของ ผบช.ก.คนปัจจุบัน จากเวลา 20.30 น. เดินทางกลับ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.35 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขึ้นปราศรัยว่า วันนี้เรามาเจอกันหน้ารัฐสภาที่สร้างจากภาษีประชาชย แต่รัฐบาลมาจากการสืบทอดอำนาจ ทำลายกระบวนการประชาธิปไตย และการพัฒนาประเทศ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการประท้วงที่ไม่เกิดสาระขึ้นมากมาย

ประยุทธ์ จันทร์โอชามาบริหารประเทศอย่างไม่ชอบธรรมด้วยการรัฐประหาร อ้างว่าต้องการความสงบ ภาพที่เห็นคือชาวบ้านลำบากกว่าจะได้รัฐสวัสดิการแบบชิงโชค เศรษฐกิจไทยตกต่ำ ประชาชาอัตคัต ฆ่าตัวตายรายวัน คนเห็นต่างทางการเมืองถูกอุ้ม นับเป็นการก่ออาชญากรรมของแผ่นดิน การพัฒนาประเทศของของรัฐบาลประยุทธ์ไม่มีประชาชนในสมการ” นางสาวปนัสยากล่าว

จากนั้น น.ส.ปนัสยา กล่าวถึงประเด็นผู้ที่ถูกแจ้งความในคดีมาตรา 112 ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ทุกคนออกมาร่วมต่อสู้ และกล่าวในตอนท้ายว่า พรุ่งนี้เวลา 15.00 น. ที่หน้ารัฐสภาแห่งนี้ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมขอประกาศอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนกว่า ประยุทธ์ และองคาพยพจะออกไป และบรรลุข้อเรียกร้อง โดย นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้ฝากข้อความผ่านทนายความมาบอกว่า อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป ก่อนยุติการชุมนุม