วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์การเมืองในพม่าหลังการรัฐประหารโดยตั๊ดมะดอว์โค่นรัฐบาลพลเรือนและเกิดการต่อต้านจากประชาชนทั่วประเทศต่อเนื่องแล้ว 2 สัปดาห์ ล่าสุดมีรายงานว่า “มะ มยะ ต้วย ต้วย ไข่” (Ma Mya Thwet Thwet Khine) หญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งถูกตำรวจยิงกระสุนจริงเข้าที่หัวระหว่างการสลายชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหารที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และถูกนำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในสภาพโคม่าโดยมีเครื่องช่วยหายใจประคองตัว เสียชีวิตแล้ววันนี้

นับเป็นผู้ประท้วงเพียงรายแรกที่เสียชีวิตนับตั้งแต่รัฐประหารโดยกองทัพเมียนมาเพื่อยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนและควบคุมตัว นางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.

ต้วย ไข่ พนักงานร้านขายของชำสาววัย 20 ถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. และได้รับการยื้อชีวิตก่อนที่ครอบครัวตกลงให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจเมื่อวันที่ 13 ก.พ. กระทั่งทีมแพทย์ระบุว่าเธอเสียชีวิตเมื่อ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้น จะส่งศพให้คณะกรรมการชันสูตรเวลา 15.00 น. เนื่องจากการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นกรณีของความอยุติธรรม

“เราจะเก็บบันทึกสาเหตุการเสียชีวิตและส่งสำเนาไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราจะมองหาความยุติธรรมและก้าวต่อไป” นายแพทย์กล่าวและว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมาก บางคนต้องออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว นับตั้งแต่น.ส.เมียะ ตแวะ ตแวะ ข่าย อยู่ในไอซียู

ก่อนหน้านี้ ซอว์ มิน ตุน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสารสนเทศพม่า ที่ตอนนี้กลายมาเป็นโฆษกกองทัพพม่า ยืนยันว่า น.ส.มะ มยะ ต้วย ต้วย ไข่ ถูกยิง และว่าทางการจะดำเนินการสอบสวนต่อไป

นอกจากนี้ มีรายงานว่า กระแสท่าทีของนานาชาติก็มีความเคลื่อนไหว ล่าสุดอังกฤษและแคนาดา ได้ประกาศคว่ำบาตร โดยติ่นซา ชุนเล ยี แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงคนรุ่นใหม่ กล่าวว่า อังกฤษระงับการทำธุรกรรมสินทรัพย์และขึ้นบัญชีดำการเดินทางเข้าอังกฤษของ 3 นายพล ร่วมถึงระงับธุรกิจของอังกฤษในการร่วมเป็นหุ้นส่วนกับกองทัพพม่า ส่วนแคนาดาจะดำเนินการคว่ำบาตรกับนายทหารระดับสูงพม่าจำนวน 9 นาย

ชุนเล ยี เขียนผ่านทวิตเตอร์ว่า “เราเรียกร้องให้ชาติอื่นร่วมมือกันและเป็นหนึ่งในการตอบโต้” “เราจะรอท่าทีของสหภาพยุโรปที่จะมีประกาศในวันที่ 22 (กุมภาพันธ์)”