“ทูตนอกแถว” ขึ้นเวที ชี้เผด็จการทำประเทศตกต่ำ ลั่นจะเจริญได้ ต้องมีประชาธิปไตยแท้จริงมาตรฐานโลก

‘ทูตรัศม์’ ขึ้นเวทีม็อบราษฎร ชี้เผด็จการทำประเทศตกต่ำ ลั่นประเทศจะเจริญได้ ต้องมีประชาธิปไตยที่แท้จริง ตามมาตรฐานโลก เชื่อต้องต่อสู้ยาวนาน แต่จะสำเร็จ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. 2563 ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งมีการจัดชุมนุมของคณะราษฎร นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตในหลายประเทศ และอดีตรองอธิบดีกรมสารนิเทศ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ทูตนอกแถว” ขึ้นปราศรัยให้กำลังผู้ชุมนุมว่า ตนมาในวันนี้รู้สึกภูมิใจในตัวน้องๆเยาวชนที่เก่งกล้าสามารถมากๆ นี่คืออนาคตของประเทศชาติที่เราควรภูมิใจ วันนี้นอกจากจะมาให้กำลังใจทุกคนแล้ว ตนเชื่อว่าเรามีวัตถุประสงค์เดียวกัน เป็นเรื่องง่ายมาก เราต้องการเห็นประเทศชาติของเราดีขึ้น เจริญพัฒนาขึ้น และก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น ถามว่าการที่เราอยากเห็นประเทศก้าวหน้าประชาชนกินดีอยู่ดีมันผิดตรงไหน มันเป็นสิทธิพื้นฐานมากๆ

นายรัศม์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศเราชัดในตัวเลขและข้อเท็จจริงว่ากำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำ ซึ่งทุกคนมีความเป็นห่วง ตนก็เป็นห่วงถึงต้องมาอยู่ตรงนี้ อยากเรียนให้ทุกคนเข้าใจว่าในโลกนี้มีเผด็จการอยู่ 2 อย่างคือ เผด็จการซ้ายจัด และขวาจัด เผด็จการซ้ายจัด เช่น จีนหรือเวียดนาม เป็นคอมมิวนิสต์ที่ขึ้นมามีอำนาจได้โดยมีฐานเสียงประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนจริง ผู้นำมีวิสัยทัศน์ สามารถทำให้ประเทศเจริญได้อย่างที่เราเห็น แต่เรื่องของสิทธิมนุษยชนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนเผด็จการขวาจัดนั้น ประเทศไทยเราเข้าข่ายเผด็จการขวาจัด หากไปดูประวัติศาสตร์ในโลกแล้วจะเห็นว่า ไม่มีเผด็จการขวาจัดที่ไหนที่ทำให้ประเทศเจริญได้จริง มีแต่ทำให้ตกต่ำทั้งสิ้น

“เรามาอยู่ที่นี่จึงเป็นเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือต้องการให้ประเทศก้าวหน้า เจริญขึ้น ซึ่งมีอยู่สิ่งเดียวคือต้องทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของเรา นี่เกณฑ์มาตรฐานของโลก ไม่ใช่ความเห็นของผมคนเดียว ดังนั้น จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การต่อสู้นี้อาจกินเวลานาน แต่คนเราเกิดมาต้องมีความหวัง ต้องการเห็นสิ่งที่ดีขึ้นแม้จะยากลำบาก แต่เรามีฝัน เชื่อว่าเราจะก้าวไปและทำฝันนั้นให้สำเร็จ” นายรัศม์ กล่าว