“ชวลิต” ทวงสัญญา “ประยุทธ์” รับปากกลางสภา แก้รธน.เสร็จใน ธ.ค. 63

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณี ส.ส..และ ส.ว. บางส่วนยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาเพื่อขอมติรัฐสภาให้ส่งศาล รธน.พิจารณาตีความญัตติแก้ รธน.ว่าขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่ นั้น หลังจากถูกสังคมถล่มว่า ถ่วงเวลาแก้ รธน.ก็มี ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาลออกมาให้ข่าวแก้ตัวว่า สนับสนุนการแก้ รธน.แต่เกรงจะไปแตะ หมวด 1 หมวด 2

สำหรับประเด็นนี้ ผมเห็นว่าแก้ตัวอย่างไร ก็แก้ไม่ขึ้น ด้วยเหตุผลดังนี้

1. ญัตติแก้ รธน.ของพรรคร่วมรัฐบาลเอง มีหลักการแก้ มาตรา 256 ตั้ง สสร.และมีเงื่อนไขไม่แตะ
หมวด 1 หมวด 2
2. ญัตติแก้ รธน.ของพรรคเพื่อไทยร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีหลักการแก้มาตรา 256 ตั้ง สสร. ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เช่นกัน ซึ่งได้เสนอญัตติต่อประธานรัฐสภาก่อนญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล
3. คณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไข รธน.ซึ่งมีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก็มีหลักการแก้ รธน.เช่นเดียวกันกับข้อ 1 และ 2 ข้างต้น คือ แก้มาตรา 256 ตั้ง สสร. และไม่แตะหมวด 1 หมวด 2
ในการพิจารณาในรัฐสภาเสียงของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล บวกกับส.ว.มากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว โดยทั่วไปเมื่อรับหลักการในวาระที่ 1 สมาชิกเสียงข้างมาก ก็จะเอาร่างของรัฐบาลเป็นหลักอยู่แล้ว

ดังนั้น การที่ ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาลอ้างว่า เกรงจะแตะ หมวด 1 หมวด 2 จึงเป็นข้ออ้างที่เลื่อนลอย
ไม่มีเหตุผลรองรับ

นอกจากนี้ กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ให้ความเห็นว่า “ไม่สามารถสั่ง ส.ส.ฝั่งรัฐบาลและ ส.ว.” ในการยื่นญัตติหรือถอนญัตติได้ นั้น พูดไป ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล และลงนามตั้ง ส.ว.เองกับมือ ในฐานะหัวหน้า คสช. ประการสำคัญ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ รับปากกลางสภา ฯ ในคราวประชุมรัฐสภาตามญัตติขอเปืดอภิปรายทั่วไปตาม รธน.มาตรา 165 เมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 ที่ผ่านมาว่า จะสนับสนุนการแก้ รธน.ให้แล้วเสร็จใน ธ.ค.63 โดยท่านกล่าวในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล แล้วจะมาปฏิเสธว่าสั่ง ส.ส. ฝั่งรัฐบาล และ ส.ว.ไม่ได้ นั้น อมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ

และถ้าตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลัง จะพบว่ามีความพยายามถ่วงเวลาจาก ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาลกลุ่มนี้ ได้เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาญัตติแก้ รธน.ซึ่งก็มีญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาญัตติแก้ รธน. ก่อนรับวาระที่ 1 ซึ่งสังคมวิพากษ์ว่าเป็นการถ่วงเวลาแก้ รธน.อย่างชัดเจน

กล่าวโดยสรุป ณ ปัจจุบัน ปัญหาการเมืองทุกประเด็นมารวมศูนย์อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ท่านจึงควรตัดสินใจทางการเมืองอย่างอารยะ และสนับสนุนการแก้ รธน.ตามที่สัญญากับประชาชนกลางสภา ฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้บ้านเมืองเข้าสู่แนวทางสงบเรียบร้อย ประเทศได้รับความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นที่ปรารถนาของประชาชนโดยส่วนรวม