พณ.แจง สหรัฐตัดจีเอสพีไทยอีก 231 รายการ กระทบแค่ 600 ล้าน

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า กรมได้รับแจ้งจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ถึงประกาศประธานาธิบดีสหรัฐที่ได้พิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) เป็นรายประเทศ โดยได้ตัดสิทธิจีเอสพี (GSP) สินค้าไทยรวม 231 รายการ เนื่องจากสหรัฐ เห็นว่าการเปิดตลาดสินค้าไทยไม่อยู่ในระดับที่เท่าเทียมและสมเหตุสมผล โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง (แรคโตพามีน) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ทำให้สินค้าไทยต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าสินค้าไทยจะส่งออกไปสหรัฐไม่ได้

ผลจากการตรวจสอบการตัดสิทธิจีเอสพี ดังกล่าว พบว่า มีสินค้าไทยที่ใช้สิทธิจริงปี 2562 จำนวน 147 รายการ มีมูลค่าการนำเข้าในสหรัฐ ประมาณ 604 ล้านเหรียญสหรัฐ หากคิดเป็นภาษีที่ต้องกลับไปเสียในอัตราปกติประมาณ 3-4% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 600 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น อุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์และส่วนประกอบ พวงมาลัยรถยนต์ ล้อรถยนต์ กระปุกเกียร์ กรอบโครงสร้างแว่นตาทำด้วยพลาสติก เคมีภัณฑ์ เกลือฟลูออรีน ที่นอนและฟูกทำด้วยยางหรือพลาสติก หลอดและท่อทำด้วยยางวัลแคไนซ์ อะลูมิเนียมเจือแผ่นบาง เป็นต้น

“การถูกตัดสิทธิจีเอสพีครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าสินค้าไทยจะถูกห้ามส่งออกไปสหรัฐไทยยังส่งออกไปได้ปกติ แต่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ และผลกระทบก็ไม่ใช่ 604 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท เพราะตัวเลขนี้ เป็นตัวเลขที่สหรัฐ นำเข้าสินค้าจำนวน 147 รายการจากไทย แต่ที่กระทบจริง ก็แค่ต้องเสียภาษีเพิ่ม 19 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 600 ล้านบาท หากสินค้าไทย มีการเน้นคุณภาพ มาตรฐาน สร้างการยอมรับ เชื่อว่า แม้ภาษีจะสูงขึ้น แต่คงไม่มีผลต่อการส่งออก และผู้นำเข้าสหรัฐจะยังต้องการสินค้าไทยเหมือนเดิม” นายกีรติกล่าว