‘แอมเนสตี้’ ชี้สั่งปิด ‘วอยซ์ทีวี’ ทุกแพลตฟอร์ม มีเจตนาสร้างความกลัวแม้ชุมนุมขยายตัว

ที่มาภาพ : twitter -weeranan

วันที่ 19 ตุลาคม 2563 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลที่ใช้อำนาจสั่งปิดสื่่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลในสถานการณ์การชุมนุมขับไล่รัฐบาลของคนรุ่นใหม่ขยายตัวไปทั่วประเทศว่า

การที่ศาลมีคำสั่งตามคำขอของรัฐบาลให้ปิด “ทุกแพลตฟอร์ม” ของวอยซ์ทีวีระบุการสั่งปิดสื่อเป็นยุทธศาสตร์สร้างความหวาดกลัว ท่ามกลางการชุมนุมที่ขยายวงกว้างมากขึ้น

มิงยู ฮาห์ รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ที่ผ่านมาวอยซ์ทีวีทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวการชุมนุมโดยสงบที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ยุทธศาสตร์เหล่านี้เป็นความพยายามอย่างชัดเจนของทางการในการข่มขู่และคุกคามเพื่อปิดปากประชาชน เช่นเดียวกับการตั้งข้อหากับแกนนำผู้ชุมนุม

“การคุกคามสื่อเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีช่องทางการสื่อสารของทางการไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการข่มขู่ที่จะปิดกั้นแพลตฟอร์มการส่งข้อความอย่างเทเลแกรม (Telegram) และการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์และแชร์ข้อความออนไลน์

“ประชาชนทุกวัยเข้าร่วมการชุมนุม ทำให้การชุมนุมโดยสงบที่มีเยาวชนเป็นแกนนำขยายตัวมากขึ้น ทางการไทยควรเคารพและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ รวมทั้งเสรีภาพสื่อด้วย ควรให้ประชาชนสามารถออกมาแสดงความคิดเห็นโดยสงบ ทั้งผ่านทางโซเชียลมีเดียและการชุมนุมบนท้องถนน เช่นเดียวกับการให้นักข่าวทำหน้าที่รายงานข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

“เราจึงขอเรียกร้องอีกครั้งให้ทางการไทย ปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยสงบที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ โดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข ทางการไทยควรยกเลิกข้อหาทั้งหมดต่อผู้ชุมนุม และในระหว่างนี้ ให้ประกันว่าผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมดสามารถเข้าถึงและติดต่อทนายความ

“เรายังขอเรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกคำสั่งห้ามออกอากาศของสื่อต่างๆ ภายใต้วอยซ์ทีวี และสำนักข่าวอื่นๆ และอนุญาตให้สื่ออิสระสามารถทำงานได้อย่างเสรี โดยปราศจากการข่มขู่ คุกคาม หรือความหวาดกลัวว่าจะถูกตอบโต้”