รมว.คลัง เชื่อเอกชนทำธุรกิจต่อไป! ไม่สนใจม็อบเพราะแต่ละวินาทีเป็นรายได้ของบริษัท

ขุนคลังเชื่อเอกชนทำธุรกิจต่อไปไม่สนใจม็อบเพราะแต่ละวินาทีเป็นรายได้ของบริษัท – โยนแบงก์ชาติชี้ชะตาขยายเวลาพักชำระหนี้
ขุนคลังเชื่อเอกชนไม่สนม็อบ – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีการชุมนุมทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ว่า กระทรวงการคลังจะยังต้องเดินหน้าดูเรื่องศักยภาพและความมั่นคงของภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะวันนี้เศรษฐกิจไทยยังเจอผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่จางไป

“ถ้าผมเป็นนักธุรกิจผมก็ต้องทำธุรกิจของผมต่อไป ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ เพราะแต่ละวัน แต่ละนาที แต่ละวินาทีมันเป็นรายได้ของบริษัท ผมคงตอบแทนไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะมีผลต่อความรู้สึก ความคิดของเขาอย่างไร” นายอาคม กล่าว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังยังยืนยันภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2564 ยังเป็นไปตามเอกสารงบประมาณที่ 2.67 ล้านล้านบาทเหมือนเดิม โดยหลังจากนี้ต้องติดตามสถานการณ์ทุกเดือน ทุกไตรมาส โดยขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นปีงบประมาณ จึงอยากดูสถานการณ์ก่อน ค่อยมาคุยกัน ซึ่งหลังจากนี้คลังจะมีการหารือกับหน่วยงานจัดเก็บรายได้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

นายอาคม กล่าวอีกว่า การขยายเวลาการชำระหนี้ผู้ประกอบของธนาคารพาณิชย์ 12 ล้านราย มูลหนี้ 7 ล้านล้านบาท ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (หอการค้าไทย) จะขยายเวลาการพักชำหนี้ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ต.ค. 2563 ซึ่งการพักหนี้ต้องมีเวลาที่ชัดเจน ธปท. ต้องดูว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร หรือว่าจะมีมาตรการเสริมเข้ามา ต้องขอเวลาให้ ธปท.สรุป

“ระหว่างพักหนี้ต้องปรับทุกอย่างให้จบ ต้องปรับ 2 ต่อ ต่อแรกการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างผู้ประกอบการกับธนาคาร ปรับต่อที่สองคือการปรับโครงสร้างธุรกิจของตัวเอง เป็นสิ่งที่ศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) มอบให้ ธปท. ธนาคาร ส.อ.ท. สภาหอการค้า ไปหารือกัน เพราะรัฐบาลช่วยได้ระยะเวลาหนึ่ง หากขยายเวลาการชำระหนี้ไปเรื่อยๆ ลูกหนี้ก็จะไม่ชำระหนี้” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างหนี้มีความสำคัญ ธุรกิจไหนดูแล้วไปไม่ได้ต้องรีบปรับ ต้องเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจ เช่น การนำดิจิตอลเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น เพราะระบบการสั่งซื้อสินค้ามันเปลี่ยนแปลงไปมาก

นอกจากนี้ นายอาคม กล่าวว่า ในระดับโลกประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้มีการพักชำระหนี้ให้กับประเทศลูกหนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2563 ถึง 30 มิ.ย. 2564 เป็นเวลา 1 ปี เพราะเป็นการพักชำระหนี้ระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรง