‘เสรี’ ลั่น ส.ว.รับฟังทุกฝ่าย แก้ รธน.ต้องคุยด้วยเหตุผล ไม่ยึดแค่นายกฯ คนเดียว ด้าน ‘สมชาย’ ชี้จุดยืนตั้ง ส.ส.ร.ต้องทำประชามติก่อน

จากกรณีมีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งให้พรรคร่วมรัฐบาลลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จำนวน 2 ญัตติ ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเป็นการส่งสัญญาณให้ส.ว.ลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่นั้น

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 6 ฉบับ ก่อนลงมติรับหลักการ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน อย่านำนายกฯ มาโยง การแก้รัฐธรรมนูญต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล นำความเห็นต่างมาพูดคุยเพื่อหาจุดร่วมที่ลงตัวให้เห็นพ้องต้องกัน ไม่ใช่การมุ่งเอาชนะคะคานกัน การที่ส.ว.จะตัดสินใจอะไร ไม่ใช่แค่ยึดนายกฯ คนเดียว แต่ต้องฟังทุกฝ่ายทั้ง ส.ส. รัฐบาล ฝ่ายค้าน และไอลอว์ ด้วย โดยส.ว. 15 คนที่เป็นกรรมาธิการชุดนี้ถือเป็นตัวแทน ส.ว.ในการตัดสินใจ

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า จุดยืนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญของตน คือ สามารถแก้ไขมาตรา 256 ได้ แต่ถ้าจะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ควรทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนก่อนว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องนำมาหารือในกรรมาธิการฯ ว่า ตามกฎหมายแล้วจะต้องทำประชามติหรือไม่ เพราะเคยมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปี 2555 วินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา291 ที่ให้ยกร่างใหม่ทั้งฉบับในในลักษณะเดียวกันนี้ ระบุชัดเจนว่า ต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อน