‘จุรินทร์’ ยัน ปชป.ไม่เห็นด้วยตั้ง กมธ.ศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ พร้อมส่งตัวแทนพรรคเป็น กมธ. เพื่อผลักดันให้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่..). พุทธศักราช…ก่อนรับหลักการ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ. เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ที่บรรจุเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว

นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎร และมีการดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว มีการกำหนดประเด็นชัดเจนว่าจะมีการแก้มาตรา256 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ( ส.ส.ร.) โดยไม่แตะหมวด1-2 ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตั้ง กมธ. ขึ้นมาศึกษาก่อนรับหลักการ ซึ่งมีความชัดเจนในตัวอยู่แล้ว เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเสนอร่างแก้ไขมาแล้ว ก็ควรจะดำเนินการในการรับหรือไม่รับในวาระที่ 1 ได้เลย และถ้ามีความต้องการจะปรับปรุงแก้ไขก็สามารถทำได้ในชั้นแปรญัตติในวาระที่ 2 ได้อยู่แล้ว

“เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้ตั้ง กมธ. พรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ และตั้งตัวแทนเข้าไปร่วมเป็น กมธ.ฯ ถือเป็นพื้นฐานหลักการปฏิบัติในสภาฯ อยู่แล้ว ไม่ว่ากฎหมายฉบับไหนแพ้หรือชนะ เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราใน กมธ.ฯ ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับไหน หรือลงมติแพ้ก็จะไม่ไปร่วมตั้ง กมธ. ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการช่วยผลักดันให้การแก้รัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จ” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า การตั้ง กมธ. พิจารณา เป็นการยืดเวลาออกไป 1 เดือน จะทำให้การประท้วงรุนแรงขึ้น และจะกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราพิจารณาไปตามหลักการ การแก้รัฐธรรมนูญถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ก็ควรดำเนินการให้เป็นตามนั้น เพื่อพิสูจน์ความตั้งใจให้กับประชาชน