‘ลูกบิ๊กตู่’ ส่งทนายเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ดเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ทำเสียหาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่สน.นางเลิ้ง นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน ผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ธัญญา และน.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา ลูกสาวฝาแฝด ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

เข้าพบ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.สมศักดิ์ เอี่ยมบุญมี รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคล ที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ด่าทอให้ร้าย กล่าวหาคุกคาม หมิ่นประมาท ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง

สืบเนื่องมาจาก เหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะทวิตเตอร์ได้ติดแฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของลูกสาวทั้ง 2 คนของนายกรัฐมนตรี หลังมีการอ้างข้อมูลว่าลูกสาวทั้ง 2 คน เก็บตัวทำธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศอย่างเงียบๆ

นายอภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนรับมอบอำนาจจากลูกสาวทั้ง 2 ของพล.อ.ประยุทธ์ให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล นิติบุคคลและสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะทวิตเตอร์ รวมกว่าหลักร้อยบัญชีที่ลงข้อมูลเท็จให้ร้ายเสียหาย ซึ่งมีคนหลงเชื่อไม่ไตร่ตรองนำไปแชร์ต่อและแสดงความเห็นอย่างเสียหาย ถือเป็นการหมิ่นประมาทบุคคลที่สาม เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงต้องการให้ตำรวจตรวจสอบว่ามีใครที่ทำผิดบ้าง

ส่วนกรณีมีนักการเมืองไปนำข้อมูลมาโพสต์แชร์ต่อด้วยนั้น ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนหรือไม่ ซึ่งลูกความทั้ง 2 ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ เพื่อเป็นบรรทัดฐานไม่ให้เกิดขึ้นอีก

สำหรับกรณีนี้ ท่านนายกฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้สั่งหรือกำชับอะไรมา แต่ตนมาในนามส่วนตัว เพราะลูกความถูกใส่ร้ายเสียหาย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยกล่าวหามาโดยตลอด ลูกความพยายามอดกลั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ล่าสุดเป็นเรื่องร้ายแรง หาว่าทุจริตโกงเงินประเทศหลักหมื่นล้าน ซึ่งไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และเป็นการให้ร้ายทำให้เสื่อมเสียกับวงศ์ตระกูล จึงได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงใน 10 ประเด็น ดังนี้

1.เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนนามสกุลกลับเป็นของมารดา เพื่อหลบหนีคดีฟอกเงินของบิดา ยืนยันว่าไม่เคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุล โดยใช้ชื่อเดิมตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน
2.ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ยืนยันว่าทั้งคู่ใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในประเทศไทย
3.เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย ยืนยันว่าไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย แต่เคยไปเที่ยวครั้งเดียวเมื่อยังเด็ก
4.เรียนอยู่ต่างประเทศ ยืนยันว่าเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 จบปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่
5.สอบตกปริญญาโท ยืนยันว่าไม่เคยเรียนต่อปริญญาโท และไม่เคยสอบตก
6.พักอาศัยอยู่คฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษโดยมีเจ้าสัวซื้อให้ ยืนยันว่าไม่เคยพำนักในอังกฤษ หรือประเทศใดเป็นเวลานาน เคยไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดปี 2558 โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าพักตามโรงแรมปกติ
7.ซุกเงิน ฟอกเงินโดยบิดาโอนเงินเข้าบัญชีที่ต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่มีบัญชีที่ต่างประเทศ
8.บิดาเคยโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้ง 2 คนเพื่อฟอกเงิน ในข้อเท็จรองบิดาโอนเงินให้ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งบิดาเคยแสดงบัญชัทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ปี2557 เป็นเงินที่ได้จากการขายที่ดินของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา มีศักดิ์เป็นคุณปู่ ที่นำมาแบ่งกับลูกหลาน
9.ทำไมไม่มีภาพปรากฎในโลกออนไลน์ ยืนยันทั้งคู่ไม่มีโซเชียลมีเดียใดๆ ซึ่งเพื่อนๆ ต่างรู้กันว่าไม่ขอออกสื่อฯ เพื่อป้องกันการแอบอ้าง
10.ไม่เปิดเผยตัวตนเหมือนลูกนักการเมืองอื่นๆ ทั้งนี้ตนทั้ง 2 ไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือรับผลประโยชน์ใดที่เกี่ยวข้องกับบิดา หรือตกเป็นที่สนใจของสังคม หากมีใครแอบอ้างถึงพวกตนทั้งสองว่าสามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นได้นั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น หากพบเบาะแสใดเกี่ยวกับการให้ร้ายพวกตน ส่งอีเมล์มาที่ [email protected]

พล.ต.ต.สำเริง กล่าวว่า ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักร้อยคนหรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ว่ามีผู้ใดกระทำผิดบ้าง โดยจะตั้งคณะทำงานในระดับกองบังคับการ โดยอาจพิจารณาการทำงานกับหน่วยงานร่วม ทั้งนี้ เพราะเป็นคดีที่น่าสนใจในหมู่ประชาชน และเพื่อสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ตนยืนยันว่าไม่มีความกดดัน และยอมรับว่าตนก็เพิ่งทราบชื่อลูกสาวของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยออกสื่อ


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)