กูรูหวั่น ‘ปรีดี’ ทิ้งเก้าอี้ สุญญากาศมาตรการคลังทุบจีดีพีปีนี้ -8.4%

นักวิเคราะห์ตลาดทุนหวั่น ‘ปรีดี ดาวฉาย’ ทิ้งเก้าอี้ รมว.คลัง เกิดสุญญากาศการดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ‘ช้อปช่วยชาติ-ชิมช้อปใช้-รถเก่าแลกรถใหม่ ฯลฯ’ ล่าช้า คาดการณ์จีดีพีปี’63 ติดลบหนัก 8.4%

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยว่า การลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) นายปรีดี ดาวฉาย ถือเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันและความเสี่ยงเพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย โดยประเมินว่าจะเกิดสุญญากาศในการออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจยาวนานขึ้น ดังนี้

• มาตรการกระตุ้นเศรฐกิจที่เอกชนเคยเสนอ และเป็นสิ่งที่สร้างความคาดหวังในช่วงก่อนหน้า หลัง รมว.คลังลาออกคาดมีโอกาสล่าช้า หรือสะดุด อาทิ มาตรกระตุ้นการบริโภค เช่น ช้อปช่วยชาติ และชิมช้อปใช้ มาตรการภาคยานยนต์ คือ โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ที่ให้สิทธิในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน มาตรการภาคตลาดทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอต่ออายุกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 7 ปี จากเดิม 10 ปี รวมถึงเสนอยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับผู้ลงทุนเกิน 1 ปี

• การผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่คาดล่าช้า ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปี 2563 มีโครงการลงทุนที่รัฐตั้งเป้าไว้จำนวน 1.95 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ ครม.อนุมัติแล้ว 1.2 ล้านล้านบาท เช่น รถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก 1.09 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีม่วง 1.01 แสนล้านบาท เป็นต้น คาดจะเกิดความล่าช้าในส่วนโครงการที่ ครม.ยังไม่ได้อนุมัติ มีอีกราว 7.52 แสนล้านบาท

ระยะถัดไปสิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามจากนี้ คือ การหาตัวบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่และใช้วงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจาก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากพิจารณาความคืบหน้า พ.ร.ก. กระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น เยียวยาประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ สาธารณะสุข

จากข้อมูลของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ณ วันที่ 25 ส.ค.63 มีเม็ดเงินเบิกจ่าย และอนุมัติยังไม่เบิกจ่ายรวมราว 3.27 แสนล้านบาท หรือราว 32.7% ของวงเงินทั้งหมด โดย ASPS ยังไม่เห็นมาตรการจะช่วยผลักให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ หมายความว่ารัฐบาลยังเหลือวงเงินอีก 6.12 แสนล้านบาทที่ยังไม่มีโครงการ หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรองรับ ซึ่งเป็นโจทย์ให้ รมว.คลังคนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารวงเงินดังกล่าว

โดยรวมหากเศรษฐกิจไทยเกิดสุญญากาศ ขาดความการต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่เศรษฐกิจโลกและไทยได้รับผลกระทบโควิด-19 เชื่อว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยคาดการณ์จีดีพีปี 2563 ต้นปีของทั้งนักวิเคราะห์ทั้งตลาด (Consensus) เฉลี่ยที่ 3% และถูกปรับลดลงมาเรื่อยๆ ล่าสุดที่ -7.3% อย่างไรก็ดี ASPS คาดการณ์จีดีพีปีนี้ที่ -8.4%


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2