ส่องม็อบ ม.เกษตร ชูป้าย ‘อนาคตหนูพังเพราะรัฐบาล’ มวลชนกางร่มฟังปราศรัย

‘มัธยม’ ร่วมม็อบ ม.เกษตร ชูป้าย ‘อนาคตหนูพังเพราะรัฐบาล’ มวลชนกางร่มฟังปราศรัย

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 16.40 น. ที่หน้าหอประชุมใหญ่ ม.เกษตรศาสตร์ มีกลุ่มนิสิต นักศึกษาประชาชนเดินทางรอร่วมกิจกรรม “ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ซึ่งมีกำหนดจัดในวันนี้เวลา 16.30 น. เป็นจำนวนมาก แต่ฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาก่อนเริ่มงาน กระทั่งเพจ “มอกะเสด” เผยแพร่ข้อความยืนยันในการจัดกิจกรรม ในขณะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประกาศว่าจะไม่มีการปิดกั้นการแสดงออก แม้ยังไม่มีการขออนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย แต่ขอให้ดำเนินอย่างสงบ ไม่ยืดเยื้อ

ต่อมา เวลา 16.45 น. ฝนเริ่มซา ประชาชนจำนวนมากพร้อมด้วยนิสิต นักศึกษา กางร่มยืนรอชุมนุม โดยผู้จัดได้ทยอยนำเครื่องเสียงติดตั้งบริเวณหน้าเสาธง

เวลา 17.10 น. ตัวแทนนิสิตประกาศขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าบันทึกภาพผู้เข้าร่วม เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัย สามารถแสดงออกทางการเมืองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนิสิต นักศึกษา ยังมีกลุ่มประชาชนสูงวัยแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ ชูป้ายข้อความต่างๆ อาทิ ป้าเอาจริง ไม่มุ้งมิ้งกับหนูนะจ๊ะ, หยุดนำเข้าโควิดเพื่ออ้าง พรก.ฉุกเฉิน, No Coup และยุบสภา เป็นต้น ภายในงานยังมีกลุ่มนิสิต นักศึกษา ชูภาพนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเข้าร่วมชุมนุม โดยถือแผ่นกระดาษเขียนข้อความต่างๆ ด้วยลายมือ อาทิ “อนาคตหนูพังเพราะรัฐบาลเห็นแก่ตัว” และ “ลาออกเพื่ออนาคตหนูได้ไหม?” เป็นต้น

เวลา 17.15 น. ตำรวจ สน.บางเขน เข้าแจ้งเตือนการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และระวังส่งผลกระทบต่ออนาคตของตนเองจากการทำผิดกฎหมาย

จากนั้นเป็นการปราศรัยโดยนักศึกษาและประชาชน อาทิ ผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและมาตรการภาครัฐ รวมถึง นายมารุวรรณ หะยีดอเล๊าะ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ซึ่งระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยสารพัดเหตุผลว่าเป็นไปเพื่อยับยั้งโควิด แต่กลับปล่อยวีไอพีแพร่เชื้อ เช่นเดียวกับสามจังหวัดภาคใต้ที่อยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมานาน อ้างว่าเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่ 16 ปีผ่านไปยังไม่เกิดสันติภาพ เพราะแก้ไขไม่ถูกจุด

เวลา 18.00 น. ฝนเริ่มตกปรอยๆ อีกครั้ง แต่ประชาชนยังคงยืนฟังปราศรัยเนืองแน่นหน้าหอประชุมใหญ่ โดยพากันกางร่มเต็มพื้นที่

เวลา 18.10 น. วงสามัญชนเล่นเพลง “บทเพลงของสามัญชน” และ “Do you hear the people sing?” เป็นต้น โดยผู้ร่วมชุมนุมต่างปรบมือตามจังหวะอย่างกึกก้อง

 

จากนั้น เวลา 18.30 น. มีการปราศรัยถึงประเด็น “แอลจีบีที” ซึ่งล่าสุดมีแอลจีบีทีที่เข้าชุมนุมที่จังหวัดเชียงใหม่นามว่า “ปาหนัน” ถูกบูลลี่ จากการถือป้าย “ฉันจะเป็นนายกกะเทยคนแรกของประเทศไทย” โดยตัวแทนนักศึกษา 2 รายจากมหาวิทยาลัยศิลปากรขึ้นปราศรัย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนขอตั้งคำถามถึงความฝันที่ไม่ใช่แค่เด็กมัธยม มหาวิทยาลัย แต่รวมถึงประชาชน ซึ่งรู้สึกว่าถูกพรากความฝันไป ทั้งยังถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงบุคลากรมหาวิทยาลัย โดยเตือนว่า ระวังไม่มีอนาคต ตนอยากบอกว่า ต่อให้ไม่มาชุมนุม ก็ไม่มีอนาคตอยู่แล้วภายใต้รัฐบาลเผด็จการ