“พิธา” เลคเชอร์ “ประยุทธ์” เป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ปมทหารอียิปต์-ลูกทูตติดโควิดเข้าไทย

วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ที่รัฐสภา (เกียกกาย) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เเถลงถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงต่อประชาชนถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อจากการที่รัฐบาลยกเว้นการตรวจเชื้อโควิด-19 ทหารอียิปต์ เเละคณะทูต ตามสิทธิทางการทูต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล เเละมาตรการสาธารณสุข รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจเเละวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่ จ.ระยอง นั้น

นายพิธา กล่าวว่า พวกเราพรรคก้าวไกลพยายามใช้กลไกทางรัฐสภา ตรวจสอบในเรื่องนี้โดยให้ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.จังหวัดชลบุรี ตั้งกระทู้สดถามไปยังนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้เข้าตอบกระทู้ถามแทน ซึ่งในการตอบกระทู้ดังกล่าวนั้น ปรากฏว่ายังไม่รับความกระจ่างใดๆ ทั้งนี้ เราอยากเล่าความทุกข์ร้อนของประชาชนที่พรรคก้าวไกลได้ เป็นรวบรวมความเสียหายจากการใช้อำนาจที่ผิดพลาดกรณีใช้มาตรการหละหลวม ให้อภิสิทธิ์แก่คนบางกลุ่มบางจำพวกจนชาวระยองต้องเดือดร้อนกันทั้งหมด ทั้งความเสียหาย ปิดโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อเข้าพัก ปิดห้างที่ใหญ่ที่สุดในระยอง 2 แห่ง กลุ่มพนักงาน คนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าทั้งหมดต้องหยุดงานทันที ทั้งห้องพักในเกาะเสม็ดถูกยกเลิก ประชาชนผู้ที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่ไปเดินห้างนับพันคนถูกเรียกให้ต้องกลับมาตรวจเชื้อและกักกันโรค พนักงานโรงแรม พนักงานสายการบิน คนขับรถแท็กซี่ และคนทำงานใกล้ชิดผู้มีเชื้อ ต้องหยุดงานและถูกกักกันทั้งหมด โรงเรียนอย่างน้อย 26 แห่งในพื้นที่เสี่ยง และอีก 3 แห่งในจังหวัดอื่น ต้องหยุดเรียน

“นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อนักเรียนและผู้ปกครองนับหมื่นคน ทั้งที่เพิ่งกลับเปิดได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังหยุดการเรียนการสอนไปหลายเดือน ในส่วนของผู้ประกอบการการท่องเที่ยงและโรงแรม ที่เพิ่งกลับมาพอลืมตาอ้าปากได้ และคาดหวังว่าจะได้ความช่วยเหลือจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ในช่วงวันหยุดยาวสิ้นเดือนนี้เพื่อให้กลับมาทำมาหากินได้ตามปกติ แต่ความฝันทุกอย่างก็พังทลายลงต่อหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด และหอการค้าจังหวัดระยอง ต่างพูดตรงกันว่า แขกยกเลิกทริปและการจองห้องพักไปแล้วกว่า 90% และจากการสำรวจตลาดหลายแห่งในจังหวัดระยอง พบว่าพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากมีสต็อกสินค้าและอาหารค้างอยู่ขายไม่ได้ เนื่องจากคนเดินตลาดหายไปทันที ซึ่งเป็นความหละหลวมของมาตรการรัฐบาล ที่ปล่อยให้ผู้มีเชื้อเดินเที่ยวทั่วระยองได้ ส่งผลกระทบต่อคนทำงานกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ นักดนตรี ทีมงาน เจ้าของกิจการ พวกเข้าเหล่านั้น ไร้ทางออก ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะเดินต่ออย่างไร หมดความหวังจากรัฐบาล” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีลูกสาวท่านอุปทูต ประเทศซูดาน ที่พำนักในกรุงเทพมหานคร ตนอยากฝากถามไปยังรัฐบาลว่า จริงหรือไม่ที่ครอบครัวนี้ถูกตรวจเชื้อโควิดตั้งเเต่ที่สนามบินและพบว่าติดเชื้อ แต่กลับไม่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล แต่กลับให้ไปพักตามที่พัก ตามข้อยกเว้น และในกรณีที่เป็นแขกวีไอพีแบบนี้ ที่ผ่านมีจำนวนเท่าไร เเละพักอาศัยอยู่ที่ใดบ้าง หากท่านได้รับรู้จากความผิดพลาดครั้งที่เเล้ว ควรจะนำมาบทเรียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนเเละสังคม โดยตนและพรรคก้าวไกลพยายามเตือนทุกคนมาตั้งแต่ต้นก็คือการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่ามันยกเว้นไว้ให้ผู้ใช้อำนาจไม่ต้องมีความรับผิดรับชอบกับการใช้อำนาจใดๆ ของตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งครั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้รับผิดชอบใดๆ เลย

“พรรคก้าวไกล ขอเรียกร้องจากพลเอกประยุทธ์ ใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1. ขอให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ให้มีการถอดบทเรียนที่เกิดขึ้น 2. รัฐบาลต้องไม่ทำตัวเป็นลิงแก้แห ต้องเข้าใจในเรื่องสิทธิทางการทูต ไม่พาดพิงเรื่องระหว่างประเทศ คำนึงถึงสิทธิพลเมือง ประเด็นสำคัญคือ ท่านปล่อยพวกเขาเหล่านั้นออกจากสถานกักตัวของรัฐบาล ( state quarantine )ได้อย่างไร และ 3. รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการเยียวยาประชาชน โดยนำเงินกู้ 4 เเสนล้านที่จะใช้เยียวยาประชาชน ที่รัฐอ้างว่าจะใช้เยียวยาด้านเศรษฐกิจ สังคม ผมในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงิน ตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขอเสนออย่างเป็นรูปธรรม ขอให้รัฐบาลเก็บเงินนั้นไว้เยียวยาประชาชนระลอกที่สอง เเละใช้ 1 แสนล้านไว้เยียวยาธุรกิจ sme พยุงธุรกิจ ช่วยเหลือประชาชน ที่อยู่ภายใต้อำนาจของท่านที่มาจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” นายพิธา กล่าว