‘ศรีลังกา’ขู่ถอนตัวจากคณะมนตรีสิทธิฯยูเอ็นแน่! ถ้ายังตามคดีอาชญากรรมสงครามชาวทมิฬต่อ

วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า โกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกาได้ออกมาขู่ว่าจะถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ หากยังเดินหน้าตามคดีอาชญากรรมสงครามที่กล่าวหารัฐบาลศรีลังกาเข้าปราบกลุ่มกบฎพยัคฆ์ทมิฬและสังหารชาวทมิฬกว่า 40,000 คน

โกตาบายากล่าวระหว่างร่วมพิธีรำลึกในโอกาสครบรอบ 11 ปี ของการยุติสงครามกลางเมืองระหว่างชาวสิงหลและชาวทมิฬที่กินเวลานานถึง 37 ปี ว่าเป็นหน้าที่ระดับชาติในการปกป้องกองทัพ จากนั้นนายโกตาบายาได้กล่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า หน่วยงานหรือองค์กรระหว่างประเทศใดก็ตาม ยังคงพยายามเพ่งเล็งประเทศและวีรบุรุษสงครามของเราด้วยข้อกล่าวหาอันเลื่อนลอย ผมจะไม่ลังเลที่จะให้ศรีลังกาถอนตัวจากภาคีสมาชิกองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆทันที

คำกล่าวเชิงข่มขู่ของโกตาบายา ไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงองค์การสหประชาชาติ แต่คำกล่าวนี้เจาะจงไปที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นซึ่งมีความพยายามสืบสวนกรณีสังหารหมู่ชาวทมิฬหลายหมื่นรายในช่วงสงครามกลางเมืองในศรีลังกาเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามหรือไม่

โกตาบายากล่าวอีกว่า แม้แต่ผู้นำของประเทศมหาอำนาจยังระบุอย่างเด่นชัดว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้มีการกระทำใด ๆ กับวีรบุรุษสงคราม ซึ่งตนก็เช่นกันที่จะไม่ยอมให้ใครหรือหน่วยงานใดมากดดันหรือคุกคามพวกเขา

ก่อนหน้านี้ โกตาบายาภายหลังขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี ได้นำให้ศรีลังกาถอนตัวจากญัตติของยูเอ็นที่เรียกร้องให้ดำเนินการต่อข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ ยูเอ็นและหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นได้กล่าวหากองทัพศรีลังกามีส่วนในการสังหารพลเรือนชาวทมิฬกว่า 40,000 รายในช่วงสุดท้ายของสงครามกลางเมือง ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยของมหินทรา ราชปักษา ประธานาธิบดีคนก่อนและพี่ชายของโกตาบายา แต่มหินทราก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว