เตรียมปฏิรูปราคาปาล์มครั้งใหญ่ดึงบล็อกเชนสกัดพ่อค้าคนกลางกดราคาเกษตรกร

‘สนธิรัตน์’เตรียมปฏิรูปราคาปาล์มครั้งใหญ่ดึงเทคโนโลยีบล็อกเชน จับคู่ซื้อขายสกัดพ่อค้าคนกลางกดราคาปาล์มเกษตรกร มอบธพ.ถกร่วมทุกฝ่ายในรายละเอียด

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมปฏิรูปครั้งใหญ่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำให้กับเกษตรกรโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน มาจับคู่การซื้อขายผลปาล์มจากเกษตรกรกับน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) หารือรายละเอียดแนวทางดำเนินงานร่วมกับผู้ผลิตไบโอดีเซล(บี100) และผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 วันที่ 15 พฤษภาคม คาดว่าจะนำร่องดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้

“ธพ.ต้องเลือกผู้วางระบบบล็อกเชนและดูรายละเอียดในการดำเนินงาน หากทุกฝ่ายพร้อม เดินหน้าได้ทันที แนวทางนี้จะช่วยให้การซื้อขายซีพีโอเทียบกับไปยังราคาปาล์มได้เช่น หากโรงงานบี100ซื้อซีพีโอที่ 21 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ราคาปาล์มทะลายที่เกษตรควรได้รับจะอยู่ที่ 3.50 บาทต่อกก. วิธีนี้จะตัดตอนพ่อค้าคนกลางไม่ให้กดราคาขายเกษตรกรที่ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น”นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)รับซื้อซีพีโอเพิ่มเติมในสัดส่วนที่เหลืออีก 3.7 หมื่นตันเพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่กำหนดให้กฟผ.รับซื้อรวม 2 แสนตัน ล่าสุดได้หารือนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)ในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่ให้พิจารณาเพิ่มสต็อกบี100ล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเพื่อลดสต๊อกซีพีโอที่สูงจากฤดูผลิต ทำให้ราคาปาล์มตกต่ำขยับขึ้น โดยปัจจุบันราคาปาล์มตกต่ำอยู่ที่ 2.70-2.90 บาทต่อกก. สต๊อกซีพีโอ 2.5 แสนตัน การใช้บี100 เดือนเมษายน 4.9 ล้านลิตรต่อวัน ยอดใช้บี10 ซึ่งเป็นน้ำมันพื้นฐาน อยู่ที่ 17 ล้านลิตรต่อวัน