“บิ๊กตู่” เยี่ยมโรงทานวัดระฆัง ขอให้ทุกคนอดทน จ่อผ่อนปรนเร็วๆนี้ ติงพวกแย่งตู้ปันสุข

“บิ๊กตู่” เยี่ยมโรงทานวัดระฆัง ให้กำลังใจชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโควิด “ยัน”รัฐบาลเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเตรียมผ่อนปรนกิจการต่างๆในเร็วๆ นี้ขอให้ทุกคนอดทน “ติง”พวกไม่รู้กติกาสังคมแย่งชิงตู้ปันสุข “ขอ”ใช้มาตรการสังคมกดดัน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมติดตามการบริหารจัดการของโรงทาน ตามพระดำริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก โดยให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19

สำหรับโรงทานวัดระฆังโฆสิตาราม มีการบริหารจัดการโรงทานเป็นระบบ และเป็นต้นแบบให้วัดอื่นที่มีการจัดตั้งโรงทานเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันโรคของทางกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแนวทางการจัดการโรงทานของวัดเป็นไปตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่การจัดที่นั่งพักรอและการเข้าแถว ต้องมีการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร มีการกำหนดจุดชัดเจน รวมถึงจัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรองเบื้องต้น ก่อนเข้ารับสิ่งของ ส่วนการรับสิ่งของจะให้ประชาชนเป็นผู้รับของเองโดยไม่มีการสัมผัสมือระหว่างผู้ให้และผู้รับ

สำหรับประชาชนที่เข้ามารับของในแต่ละวันจะได้รับคูปองจากทางวัดที่มีคณะสงฆ์ลงพื้นที่ไปสำรวจความเป็นอยู่ในชุมชนล่วงหน้า 1 วันก่อนแจกคูปองให้ที่บ้านเพื่อให้ไปรับของในวันรุ่งขึ้น ซึ่งคูปองแต่ละสีจะแบ่งตามช่วงเวลารับของ เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกฯและรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ประชาชนมีความเสี่ยงกับการติดเชื้อโรค ขณะนี้ก็ได้แก้ปัญหามาเป็นระยะ พร้อมกล่าวยืนยันกับประชาชนว่า “ถ้าเราทำสามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยเฉพาะการเว้นระยะห่างก็ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ติดก็ไม่ตาย” พร้อมอวยพรว่า ให้ทุกคนอายุยืน มีสุขภาพใจและกายที่แข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่ง ได้มีชาวบ้านขอจับมือพล.อ.ประยุทธ์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ให้จับ พร้อมกล่าวว่าที่มาวันนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจกับทุกคน แต่ที่ไม่ได้จับมือกับทุกคนก็เพราะต้องทำตามที่สาธารณสุขบอกไว้

“ไม่ได้รังเกียจใคร ฉันรักทุกคน รังเกียจประชาชนไม่ได้อยู่แล้ว วันนี้รัฐบาลพิจารณาเพื่อเตรียมการผ่อนปรนมาตรการต่างๆซึ่งรู้ดีว่าทุกคนเดือดร้อน แต่เนื่องจากไวรัสโควิด 19 สามารถอยู่ในตัวคนได้ แต่บางคนไม่แสดงอาการและอาจฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ได้ อย่างไรก็ตามถ้าเราพร้อมใจ และร่วมมือป้องกันก็ไม่มีปัญหา

“ รัฐบาลก็เตรียมที่จะทยอยเปิดกิจการเพื่อให้ทำมาหากินได้ เป็นระยะๆไป รู้ดีว่าทุกคนลำบาก บางคนก็เดือดร้อนแต่ยืนยันว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ อยู่มา 5-6 ปีไม่รู้จักผมหรือว่าเป็นคนอย่างไร ต้องการทำให้ทุกคนมีความสุขทำให้ประเทศดีขึ้น และการทำงานไม่ใช่นายกฯคนเดียว ทุกอย่างอยู่ที่พวกเราทุกคน อะไรที่มีการพูดจาไม่จริง ผมไม่ไปเถียงหรือโต้ตอบใคร ความสุขของนายกฯคือการมาทำงานให้กับทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีกเรื่องที่น่าภูมิใจวันนี้คือมีคนมาร่วมกัน เพื่อสาธารณะ ผ่านตู้ปันสุข ตู้แบ่งปัน ซึ่งถ้าทุกคนรู้จักระเบียบ กติกาของสังคม ทุกคนที่ให้ก็จะมีกำลังใจที่จะมาบริจาคเพิ่ม “แต่บางคนก็เกินไป ไม่สวยงาม เอาของไปเยอะแยะ คนอื่นก็ไม่ได้แบ่งปัน ขอให้เอาเท่าที่จำเป็น พรุ่งนี้ก็ไปรับใหม่ได้ ถ้าทุกคนได้เห็นก็อยากบริจาคเฉลี่ยกันไป เขาถึงได้เรียกว่าตู้แบ่งปัน ถ้าเอาไปคนเดียวแบบนี้เป็นการเห็นแก่ตัว ไม่ใช่การแบ่งปัน อย่ามาอ้างอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน นายกฯก็คิดทุกวันว่าจะทำอะไรให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยมีอยู่ตำนวนมาก ก็ขอให้ช่วยกันปรับตัวเอง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพของชาวบ้าน ก่อนให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า เห็นใจทุกคนในช่วงนี้ วัดและพระจึงเป็นที่พึ่ง ทั้งนี้วัดถือเป็นสถานที่ สำคัญซึ่งนอกจากเผยแพร่ศาสนาแล้ว ก็ยังเป็นแก่นของพุทธศาสนา สอนคนให้รู้จักความเป็นกลาง ไม่ขัดแย้ง สร้างทุกคนมีความสุข โรงเรียนก็เป็นสถานที่สำคัญในการสั่งสอนเด็กให้เป็นคนดี ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยน ให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ นี่คือชีวิตวิถีใหม่ที่เราต้องมีการปรับเปลี่ยน วันข้างหน้าการท่องเที่ยวก็ต้องปรับเปลี่ยน โดยเน้นความสำคัญคือ เรื่องความสะอาดและสุขภาพ

“ วันนี้จงภูมิใจในการทำสิ่งที่ดีให้กับคนอื่น ซึ่งนอกจากเรื่องการทำมาหากินแล้ว เราต้องให้ใจกับคนอื่นด้วย คิดดีเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม คนไม่ดีก็จะค่อยๆหายไป มาตรการทางสังคมจะช่วยได้เยอะ คนที่ทำไม่ดีก็จะถูกปฏิเสธ ขอให้ทุกคนมีความสุข และส่งต่อลูกหลาน ยอมรับว่ามันไม่ง่ายนักที่จะแก้ปัญหาแต่ก็ต้องพยายามทำ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว