“จิรายุ” ชี้ “หม่อมเต่า” ทำประกันสังคมพลาด ลงทุนผิด หากสินทรัพย์ที่เอาไปลงทุนราคาตก ส่อทำเงินลูกจ้างขาดทุนหลายแสนล้านบาท

“จิรายุ” ชี้ “หม่อมเต่า” ทำประกันสังคมพลาด ลงทุนผิด หากสินทรัพย์ที่เอาไปลงทุนราคาตก ส่อทำเงินลูกจ้างขาดทุนหลายแสนล้านบาท

9 พ.ค 63 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระองค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และ กองทุน กล่าวถึงกรณีการที่ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่จะเพิ่มเงินว่างงานให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในสถานการณ์โควิด-19 จากร้อยละ 62 ให้เป็นร้อยละ 75 นั้น ตนเห็นว่า การคืนเงินบางส่วนที่เป็นของลูกจ้างเองนั้น ควรคืนอย่างน้อยร้อยละ 80 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 3 เดือน ทันที และเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดอย่าดึงเวลา เพราะความเดือดร้อน ความเป็นความตายของประชาชนมีทุกวินาที

ทั้งนี้เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึงเลขาฯกองทุนประกันสังคมให้ชี้แจงถึงสถานการณ์เงินและการนำเงินไปลงทุนต่างๆที่ประชาชนควรทราบ โดยกองทุนชี้แจ้ง ณ วันที่8พฤษภาคม63ว่ามีเงินที่ใช้ได้ตอนนี้เพียงแค่ประมาณ 16,000 ล้านบาทเท่านั้น ส่วน 2.2ล้านล้านบาทนั้น ถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆร้อยละ 82 หรือประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท ส่วนอีก 18% ไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่มีความเสี่ยง อาทิอสังหาริมทรัพย์ ทองคำประมาณ 80,000 ล้านบาททั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งทำให้เห็นว่าวันนี้รัฐมนตรีแรงงานต้องตัดสินใจในฐานะผู้นำสูงสุด เพื่อผู้ประกันตน ที่กำลังเดือดร้อนสูงสุดเช่นกั

โดยเฉพาะปัญหาที่ออกมาอ้างว่า สนง.ประกันสังคมยังใช้ระบบ แมนนวลด้วยการเขียนมือเพราะระบบคอมพิวเตอร์ล้าสมัยยิ่งทำให้เห็นความหละหลวมและ ไร้ความสามารถ ทางการบริหาร เพราะการดูแลเม็ดเงินของประชาชนกว่า2ล้านล้านบาทนั้น จะทำแบบนี้ไม่ได้ อย่าปล่อยให้ประชาชนจะฆ่าตัวตาย กันมากไปกว่านี้ ทั้งๆเป็นเงินของประชาชนเอง ทำไมไม่คืนให้ประชาชน

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า กรณี ม.ร.ว.จัตุมงคลเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์นี้ ให้สำนักงานประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ให้ได้รับเงินทดแทนจากร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน เป็นร้อยละ 75 แต่ไม่เกินเพดาน 15,000 บาท ซึ่งมีประมาณ 9.9 แสนคนเศษนั้น ต้องเร่งดำเนินการก่อน หากทำไม่ได้ ควรลาออกไป ให้ผู้ที่กล้าทำเพื่อประชาชน มาดำเนินการแทน และหากมีผู้ประกันตนฆ่าตัวตายอีกรัฐบาลต้องรับผิดชอบ การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ดประกันสังคม)เมื่อวานนี้ (8พค)ไม่ดำเนินตามนโยบายรัฐบาลหักแนวคิดของ หม่อมเต่า เรียกว่าหยามหน้าไม่สนใจกันเลยทีเดียว โดยบอร์ดออกมาประกาศว่า ไม่เห็นด้วยในนโยบายของ รมต.ที่จะจ่ายให้ร้อยละ75 โดยอ้างว่าเป็นห่วงสถานภาพการเงินของกองทุน นั้น

นายจิรายุกล่าวอีกว่า ถือเป็นเรื่องอันตรายสำหรับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรี ซึ่งการประชุม ครม.ในวันอังคารนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่ารัฐมนตรีแรงงาน ว่ามีน้ำยาและกล้าตัดสินใจที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ทั้งๆที่เป็นเงินของประชาชน

ซึ่งในภาวะเช่นนี้ควรเร่งดำเนินการและไม่มีเหตุผลใดจะต้องมากังวลแล้ว ยิ่งรัฐบาลจะกู้เงินเป็น ล้านล้านบาทมาใช้ในเรื่องโควิด19ก็ต้องเร่งดำเนินการ ไม่ควรมาคิดเยอะในสถานการณ์เช่นนี้
เพราะ ตนถือว่าสถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบเกือบ 100ปีถือว่าหนักที่สุดแล้ว

วันนี้ ตนจะรอดูน้ำยาของ จับกัง1.ในวันอังคารที่จะถึงนี้ว่าจะยืนเคียงข้างผู้ใช้แรงงานที่จ่ายเงินประกันสังคมทั้งๆเป็นเงินของพวกเขาเองหรือไม่ เพราะหากเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่สามารถทำเพื่อประชาชนตนเห็นว่าควรลาออกไปเลี้ยงหลานจะดีกว่านายจิรายุกล่าว